--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

"รองอัยการสูงสุด" ไม่หวั่นไหว หลังโดนยิง "เอ็ม 67" เข้าสำนักงาน เชื่อหวังสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมือง

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีพบวัตถุระเบิด M 67 ที่บริเวณลานจอดรถริมรั้วสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ว่า ตนไม่ได้เดินทางเข้าสำนักงาน เนื่องจากติดภารกิจไปราชการ จ.สุราษฎร์ธานี กับนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด อย่างไรก็ดีเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์มากกว่า ไม่ได้หวังผลให้มีผู้บาดเจ็บ โดยจากนี้สำนักงานอัยการสูงสุดอาจจะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตรวจตราคุมเข้มมากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกัน แต่ที่ผ่านมาการรักษาความปลอดภัยก็คุมเข้มอยู่แล้ว จึงไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร


เมื่อถามว่า คิดหรือไม่ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของอัยการ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เป็นที่ทำงานของพนักงานอัยการคดีสำคัญ เช่น คดีพิเศษ คดีเศรษฐกิจและทรัพยากร คดีอาญา และสำนักงานอัยการต่างประเทศ ซึ่งคณะทำงานอัยการคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็รวมอยู่ด้วย นายวัยวุฒิ รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่การสร้างสถานการณ์อาจมีเป้าหมายที่จะมุ่งสถานที่ราชการเท่านั้น ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ราชการ


"สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจของพนักงานอัยการ และข้าราชการ อัยการก็ยังจะทำหน้าที่ของเราต่อไป คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น" รองอัยการสูงสุดกล่าวย้ำ



ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) ถ.รัชดาฯ พบวัตถุระเบิดตกอยู่ภายในลานจอดรถ และจากการเข้าตรวจสอบพบลูกระเบิดชนิด เอ็ม 67 ถูกบรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกอยู่กลางลานจอดรถ ซึ่งรั้วอยู่ใกล้กับสะพานลอยข้ามถนนรัชดาภิเษกเบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายน่าจะนำมาโยนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ระเบิดไม่ทำงาน


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่วิทยาการได้เก็บกู้ไว้ได้แล้ว และได้นำของกลางไปตรวจสอบหาร่องรอยนิ้วมือ เพื่อหาตัวของผู้ที่ก่อเหตุต่อไป



ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เดินตรวจดูแลความเรียบร้อยภายในบริเวณสำนักงานพบระเบิดชนิด M 67 จำนวน 1 ลูก วางอยู่สนามหญ้า ซึ่งใกล้ลานจอดรถ ภายในรั้วสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งอยู่ตรงข้ามสำนักงานนักเรียนนายเรือ รุ่น 77 เจ้าหน้าที่ รปภ. จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่นำยางรถยนต์จำนวน 2 เส้นมาวางครอบไว้ โดยสภาพระเบิดที่พบ มีลักษณะเป็นระเบิดลูกเกลี้ยง สภาพสลักและกระเดื่องยังอยู่ครบ และหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้เก็บกู้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปตรวจสอบแล้ว ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองปราบปราม ประมาณ 10 นาย รุดมาตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุเพื่อสืบสวนสอบสวนคดีต่อไป


ภายหลังทราบเหตุ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นคนร้ายคงต้องการสร้างสถานการณ์เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอัยการแต่อย่างใด โดยตนได้รายงานให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ทราบเรื่องแล้ว ขณะที่ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้นด้วย


ด้านนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการคดีอาญา ซึ่งรับผิดชอบดูแลความเรียบร้อยของสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นน่าเชื่อว่าผู้ที่นำระเบิดมาทิ้งไว้ อาจเกรงว่าจะถูกตำรวจ สน.พหลโยธินที่ตั้งด่านบริเวณ แยกรัชโยธินจับกุมจึงนำระเบิดมาวางทิ้งไว้เพราะเป็นทางผ่าน


สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการดูแลรักษาความปลอดภัยของสำนักงานอัยการสูงสุดยังมีกำลังเจ้าหน้าที่น้อย อีกทั้งแนวรั้วของสำนักงาน ยังมีความยาวร่วม 1 กิโลเมตร ประกอบกับจุดที่คนร้ายนำระเบิดมาทิ้งไว้เป็นจุดอับลับสายตาเพราะอยู่ใต้สะพานลอยคนข้าม แต่หลังจากนี้สำนักงานอัยการสูงสุดจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น


ขณะที่ นายวินัย มุ่งคำ อายุ 60 ปี นายท่ารถประจำทาง สาย 38 วิ่งระหว่าง ม.จันทรเกษม – ม.ราม 2 ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเข้าเวรทำงานตั้งแต่เวลา 05.30 น.ไม่เห็นคนร้ายและไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ ต่อมาจึงเห็นเจ้าหน้าที่ รปภ. และตำรวจสน.พหลโยธิน ประมาณ 2-3 นาย นำยางรถยนต์จำนวน 2 เส้นมาไว้ และเก็บกู้ลูกระเบิดที่คนร้ายนำมาวางไว้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที


สำหรับเจ้าหน้าที่ รปภ. กล่าวว่า ไม่ทราบว่าระเบิดดังกล่าวถูกนำมาวางไว้เมื่อใด ไม่เห็นว่าคนร้ายเป็นใคร แต่สลักและกระเดื่องยังไม่พร้อมที่จะทำงาน


อัยการฝ่ายคดีพิเศษรายหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00 น.เศษ ได้เข้ามาจอดรถบริเวณที่มีการวางระเบิด เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังยืนคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ตนจอดรถ จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเดินเข้าไปในที่ทำงานจึงได้รับแจ้งว่ามีการวางระเบิดบริเวณที่ตนจอดรถอยู่ จึงรีบลงไปขับรถออกโดยเร็ว



ที่มา.มติชนออนไลน์
***************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น