เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 มีนาคม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ศอ.รส. ได้ออกประกาศ 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นเรื่องการห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 8 สาย ดังนี้ 1.ถนนนครราชสีมา ตั้งแต่แยกกองพลที่ 1 รอ.ถึงแยกสวนรื่นฤดี 2.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกอุภัย 3.ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกสุโขทัย ถึงแยกวัดเบญจมบพิตร 4.ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกกองพลที่ 1 รอ. ถึงแยกเสาวนีย์ 5.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกพระรูปรัชกาลที่5 ถึงแยกอู่ทองใน 6.ถนนสวรรคโลก ตั้งแต่แยกเสาวนีย์ ถึงแยกสวรรคโลก 7.ถนนสุโขทัย ตั้งแต่แยกสวรรคโลก ถึงท่าน้ำสามเสน และ8.ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงแยกอู่ทองใน ซึ่งคาดว่าใน1-2 วันนี้จะมีการประชุมสภา ซึ่งจะใช้รัฐสภาเป็นสถานที่ประชุม
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า สำหรับฉบับที่ 2 ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ อันอาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ทำลายหรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ อาทิ การปลุกระดม ยุงยงปลุกปั่น สร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความรุนแรงหรือเป็นอันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ เข้าหรือต้องออกบริเวณพื้นที่รัฐสภา อู่ทองใน เขตดุสิต กทม. เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการห้ามยานพาหนะเข้าถนนทั้ง 8 สายดังกล่าวและห้ามเข้ารัฐสภา
“หากผู้ใดฝ่าฝืน เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นกรณีผู้ชุมนุมก็จะถือว่ามิใช่เป็นการชุมนุมโดยสงบ ตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เพราะฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลปกครองกลาง เคยมีคำสั่ง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ตามคดีหมายเลขดำที่ 1605/2551 เป็นแนวทางไว้แล้ว” รอง ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า หากฝ่าฝืนทั้งไปปิด ไปล้อม ไปก่อเหตุ ทำให้ประชาชนหวาดกลัวถือว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ เพราะเมื่อห้ามยานพาหนะ ห้ามคนเข้าไป หากเข้าไปถือว่าผิดกฎหมาย โดยจะมีการนำประกาศข้อบังคับไปปิดตามจุดต่างๆ เพื่อให้รู้ให้เห็นจับต้องได้ กว่า 2,000 แผ่น ส่วนจะห้ามถึงวันใด บช.น.ยังไม่ทราบ อยู่ที่ศอ.รส. โดยมีการเริ่มตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว โดยการห้ามผู้เข้ารัฐสภาเป็นการห้ามผู้อาจมีพฤติกรรมก่อความวุ่นวายขึ้น
ด้านพล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ปัญหาการจราจรต้องมีการแก้ไขปัญหารายชั่วโมง ตำรวจต้องทำงานตั้งแต่ดึก สำหรับแยกสำคัญทั้งแยกการเรือน แยกราชวิถี แยกอู่ทองใน แยกเบญจ นั้น พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. (จราจร) จะมีการเปิดขาเข้าบางส่วน และเปิดขาออกช่วงเย็นในเบื้องต้น ส่วนสภาพการจราจรก็จะแก้ไขปัญหาตมห้วงเวลาหากติดอีกก็จะเปิดบางจุด ตามประกาศ พรบ.ความมั่นคง ซึ่งเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่สามารถสามารถอนุญาตได้ สำหรับเรื่องอื่นๆกำลังเข้าจุดตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว โดยตำรวจทหารทั้งหมดไม่มีอาวุธ โยตำรวจใช้กำลัง 22 กองร้อยดูแลรัฐสภา โดยในรัฐสภามีกำลังแค่ 3 กองร้อย เตรียมพร้อมเพื่อพร้อมในการชุมนุม โดยสำหรับการชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมาข้อมูลจากสันติบาล มียอดสูงสุดที่ 15,500 คน
เมื่อถามถึงเหตุระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เหตุระเบิดเกิดเวลา 20.30 น. ที่หน้าสำนักงานแขวงการทางธนบุรี พบกระเดื่องระเบิดลูกเกลี้ยงชนิดเอ็ม 67 โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ ไม่ยืนยันว่าเกี่ยวกับการเมือง เพราะมี รปภ.ถูกไล่ออก 1 คน และระเบิดที่ป้อมยาม อีกทั้งตรงนั้นเป็นที่ซ่อมทางไม่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ทางการเมือง แต่บังเอิญว่าคนร้ายใช้วัตถุระเบิด โดยจะดูกล้องวงจรปิดและตรวจสอบทั้งหมด
ถามว่าจะมีการขอศาลออกหมายจับชายในภาพสเกตซ์ที่ต้องสงสัยเป็นคนร้ายยิงระเบิดอาร์พีจีที่กระทรวงกลาโหม 2 คนหรือยัง พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า การสืบสวนคืบหน้าไปมาก ใกล้คว้าคอเสื้อแล้ว โดยเรื่องนี้ต้องถาม น.1 (พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.) ซึ่งน.1 ยืนยันในที่ประชุมว่าไม่ใช่แพะ ของแท้ ส่วนการออกหมายจับยังไม่มี
ที่มา.มติชนออนไลน์
*************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น