ก็มีคนที่ไม่ใช่เสิ้อแดงถามผมหลายคนว่า คนเสื้อแดงกำลังทะเลาะกันหรือแตกกันหรือ ผมเลยถามว่าแตกกันตรงไหน เขาก็บอกว่า เห็นสามเกลอด่า เสธ.แดง และกรณีสุรชัย
ผมก็งงๆ เพราะผมไม่ถือว่า เสธ.แดงนั้นเป็นแกนนำเสื้อแดงแต่อย่างใด ส่วนกรณีสุรชัย ผมไม่ได้ให้น้ำหนักในฐานะแกนนำเสื้อแดงมากนัก เขาอาจมีกลุ่มแดงสยาม แต่ผมยังไม่เห็นมวลชนของกลุ่มนี้ อาจมีคนเห็นด้วย แต่คนที่เห็นด้วยก็ยังรวมอยู่กับ นปช. เป็นส่วนใหญ่
การที่แกนนำ นปช. ทะเลาะกับสองคนนี้ ผมไม่ถือว่าเป็นเสื้อแดงแตกกัน
หาก ณัฐวุฒิทะเลาะกับวีระ หรือ จตุพรทะเลาะกับณัฐวุฒิ หรือ อริสมัน แรมโบ้ กลุ่มนี้ทะเลาะกันซิครับ ผมจึงจะถือว่า แกนนำเสื้อแดงทะเลาะกัน
สุรชัย เสธ.แดง สองคนนี้ ไม่ใช่ นปช. (จะเป็นคนเสื้อแดงก็เป็นกลุ่มอื่นๆ ที่มีหลายร้อยกลุ่ม แต่ไม่ใช่ นปช.)
แนวรบที่สำคัญในการต่อต้านอำมาตย์ ผมเห็นว่ามีสองแนวรบในเวลานี้ (คนอื่นจะเห็นอย่างไรก็ได้)
1. แนวรบเปิดเผย คือ คนเสื้อแดงมี นปช. เป็นแกนนำ มีการสร้างมวลชนอย่างเปิดเปิดเผย เป้าหมายหลักคือ โค่นล้มระบบอำมาตย์ โดยโจมตีรัฐบาลอภิสิทธิ์และ พล.อ.เปรม ต้องการปฎิรูปการเมืองระบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่มีการแทรกแซงทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
2. แนวรบใต้ดิน ผมไม่ทราบว่ามีกี่กลุ่ม แต่ที่ผมให้น้ำหนักมากที่สุด และทำงานได้ผลคือ "นปช.ยูเอสเอ + อ.ชูพงษ์" เป็นการโจมตีใต้ดินที่รุนแรงและเฉียบขาด แม้ไม่มีการใช้อาวุธใดๆ ทางกายภาพ แต่อาวุธคือ "ซีดีเนื้อหา" ที่ "รุนแรงระดับเดียวกับระเบิดนิวเคลียร์" เป้าหมายคือ ทำลายลัทธิซาบซึ้ง หรือ ระบอบเทวราชา
แนวรบสองแนวนี้ คงไม่ได้มีการประสานกัน หรือทำงานร่วมกัน
แต่แนวทางมันสอดประสานกันโดยอัตโนมัติ และก่อให้เกิดเป็นพลังอย่างรุนแรง
แนวรบ นปช. หยุดอยุ่ที่เปรม เพราะเป็นแนวรบเปิดเผย สามารถทำได้อย่างมากก็แค่นี้ แต่ คุณูปการอันยิ่งใหญ่คือ "การรวมคน จัดตั้ง และมีมวลชนมหาศาล"
ขอจำกักของ แนวรบ นปช. คือ ไม่าสามารถโจมตีไปที่เป้าหมายที่แท้จริงได้ เพราะมีข้อจำกัดทางวัฒนธรรมหลายประการ
แนวรบที่สอง นปช.ยูเอสเอ/ชูพงษ์ เป็นการ "สร้างความตาสว่าง" หรือให้การศึกษาแก่ มวลชนเสื้อแดงของ นปช. ไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำอย่างเปิดเผย ขึ้นเวที ปราศรัยอย่างเปิดเผย เมื่อมันเป็นงานใต้ดิน ก็ต้องทำอยู่ใต้ดิน
ผมเชื่อว่าคนเสื้อแดงจำนวนมาก ก็รับ "เนื้อหาของ นปช.ยูเอสเอ/ชูพงษ์ ด้วยวิธีการต่างๆ
ส่วนแดงสยาม หรือ แดงขัติยะ (เสธ.แดง) นี้ ผมยังไม่ให้น้ำหนักมากนัก
แดงสยาม แนวทางยังไม่ชัดเจนอะไร เนื้อหาที่นำเสนอ ก็คงเป็นเนื้อหาเดียวกับ อ.ชูพงษ์ ซึ่ง อ.ชูพงษ์ทำได้ดีกว่า เพราะสามารถพุดได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้อง อุปมาอุปไมย แต่นี่มันเป็นงานใต้ดิน พูดบนเวทีไม่ได้ ก็ต้องเป็นงานใต้ดิน จะมาขยายบนดินได้อย่างไร
บทบาทแดงสยามในสายตาผม ไม่ควรมาทำงานบนดิน หากคิดจะช่วยเหลือคนเสื้อแดง
สามเกลอเขาก็สร้างมวลชนไป นปช.ยูเอสเอ/ชูพงษ์ก็ผลิตเนื้อหา ป้อนมวลชนเสื้อแดงในช่องทางอื่นๆ ไป
นี่เป็นช่องทางที่สมบูรณ์แล้ว เป็นแนวรบที่สอดประสานกันอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่า นปช. ในทางเปิดเผยจะไม่ยอมรับ แต่เขาก็ไม่เอ่ยถึงหรือพูดถึงแต่อย่างใด เพราะมันเป็นงานที่ นปช. ไม่จำเป็นต้องไปพูดถึง "มันสอดประสานกันเอง โดยธรรมชาติอยูแล้ว
ปล. เรื่องของสุรชัย และแดงสยาม ผมขี้เกียจติดตาม ผมเบื่อและรำคาญนิดๆ งานที่ สุรชัยคิด ผมใ้ห้นำหนัก นปช. ยูเอสเอ/ชูพงษ์มากกว่า
by ลูกชาวนาไทย
************************************************
เสื้อแดง เข้าใจว่า รัฐบาลประชาธิปปัตย์เป็นคนกู้ IMF
ตอบลบความจริง คือ รัฐบาลชวลิต ซึ่งมีรองนายกชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ทำเรื่องกู้IMF
หลังทำเศรษกิจพังจากการแทรกแซงค่าเงิน
และเงินกู้งวดแรกก็ได้เบิกในรัฐบาลชวลิต
เสื้อแดง คิดว่าทักษิณปลดหนี้ IMF
แต่ที่จริง...เงินกู้IMF จะเบิกเป็น 3 เดือน/งวด สัญญาจ่าย 3 ปี
รัฐบาลชวนเข้ามา (หลัง 14 พ.ย. 2540) ได้หยุดกู้IMFก่อนกำหนด
และเริ่มใช้หนี้ เป็นผลให้กำหนดชำระเงินงวดสุดท้ายเร็วขึ้น 1 ปี
จากกลางปี 2547 เหลือเพียงกลางปี 2546
ไทยก็จะหมดหนี้ไอเอ็มเอฟ (ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล)
(ช่วงเม.ย. บาบูน มีเสื้อแดงโดนจับ เขาโวยวายว่า ทักษิณใช้หนี้ IMF
ไปไล่เขาทำไม...น่าสงสาร โดนหลอก)