วิบากแห่งสังคมบ้า
บนอัตตาท้าทายทำลายสิ้น
ความดื้อรั้นจึ่งเดิมพันเอาแผ่นดิน
ตวัดลิ้นพ่นลมแห่งความลวง
สำเร็จแล้วฤาความใคร่ได้เสพสม
บนความทุกข์ระทมที่ใหญ่หลวง
แห่งมหาประชาชนคนทั้งปวง
ที่ติดบ่วงใต้หลุมดำ ช้ำ ลำเค็ญ
แม้นปีนป่ายตะเกียกตะกายกันสุดฤทธิ์
บ่วงโซ่รัดแน่นสนิทนับร้อยเส้น
ผูกอาญาบ้าระห่ำเกินจำเป็น
ได้รู้เห็น ก็ใจหาย แทบวายวาง
แหงนมองฟ้าแสงเจิดจ้าตาแสบร้อน
จะอ้อนวอนเวทนาจากฟ้าบ้าง
ฟ้าก็หม่นมืดมิดปิดหนทาง
ประกายแสงสุกสว่างจางหายไป
แม้นกริ่งเกรงก็มิอาจจะก้มหน้า
แหงนมองฟ้าบางคราฟ้าสดใส
ดูเหมือนว่าฟ้าจะปลอบประโลมใจ
เกิดความหวังครั้งใหม่ไม่สงกา
แหงนมองฟ้าเวลาสางฟ้าอ่อนแสง
สีส้มแดงดุจสวรรค์เหนือชั้นฟ้า
ภาพที่เห็นเช่นลำแสงเมตตา
เปี่ยมล้นกรุณาเกินกว่าใคร
จึ่งวางจิตวางใจให้กับฟ้า
เมฆใหญ่น้อยลอยมาเหมือนอยู่ใกล้
ครั้นเอื้อมมือไขว่คว้า...รู้ว่าไกล
ฟ้าอยู่ในภาพสวรรค์อันเรืองรอง
แหงนมองฟ้าหม่นมัวก็ตัวสั่น
ฟ้าพิโรธเลื่อนลั่นสนั่นก้อง
เมฆทะมึนมืดดำสร้างทำนอง
สายฟ้าฟาดตวาดร้องเริงระบำ
ที่มา. Konthaiuk
โดย.ฟ้าคลุมดิน
.......................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น