--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

หน้าสิ่ว หน้าขวาน พิสูจน์ อภิวันท์ วิริยะชัย ภายใน พรรคเพื่อไทย


นอกจากบทบาทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในฐานะประธานพรรคเพื่อไทยแล้ว ขอให้จับตาบทบาท พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อย่างเป็นพิเศษ

เป็นบทบาทในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานทางการเมือง

เป็นบทบาทในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง ที่เรียกร้องความเป็นเอกภาพ เรียกร้องความกล้าหาญ

ณ วันนี้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็น ส.ส.นนทบุรี

คงจำกันได้ว่า ก่อน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จะผันตัวเองไปเป็น "เขยนครพนม" ก็เคยเป็นส.ส.นนทบุรี

และคนที่หาเสียงเคียงกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็คือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย

ณ วันนี้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นอกจากเป็นส.ส.นนทบุรี แล้วยังดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

จำเป็นต้องจับตาบทบาท พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อย่างชนิดเกาะติด

ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานยิ่ง อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของการเปลี่ยนผ่านอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง

เพราะว่าพรรคเพื่อไทยคือความต่อเนื่องจาก พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

การยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 ทำให้กรรมการบริหารพรรค 111 คนถูกแขวน และกระจัดพลัดพรายไป

การยุบพรรคพลังประชาชน เมื่อเดือนธันวาคม 2551 ทำให้กรรม การบริหารพรรค 109 คนถูกแขวน และบางส่วนก็กระจัดพลัดพรายไป

ที่เหลืออยู่ในพรรคเพื่อไทยถือว่าเป็นน้ำ 3 อันเหลือจากไทยรักไทย พลังประชาชน

อย่าแปลกใจหากว่าบทบาทของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในเวทีแห่งรัฐสภาไม่คึกคักเท่าที่ควร แม้กระทั่งจะหาชื่อบุคคลที่เหมาะสมในการระบุว่าเป็นนายกรัฐมนตรีการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจก็ยากเย็นอย่างยิ่ง

กระนั้น ก็อย่ามองข้ามบทบาท พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นอันขาด

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย สำเร็จจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และได้ดุษฎีบัณฑิตในทางวิศวกรรมศาสตร์จากต่างประเทศ

เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ฝึกปรือวิทยายุทธ์ทางการเมืองจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จากพรรคความหวังใหม่ และที่สุดมาแจ้งเกิดในพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องจนถึงพรรคพลังประชาชน

บทบาทเด่นเป็นอย่างมากคือบทบาทหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย คือแกนนำที่สำคัญคนหนึ่งของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตั้งแต่ยังเป็นหวอดเล็กชุมนุมอยู่ท้องสนามหลวงและยกขบวนไปยังบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์

อย่าได้แปลกใจหากเมื่อผ่านสถานการณ์ 26 กุมภาพันธ์ 2553 มา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย คือผู้ที่นั่งผนึกพลังร่วมกับเพื่อนส.ส. และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

ออก "แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย" ในวันที่ 27 กุมภา พันธ์ 2553

แท้จริงแล้วภายในพรรคเพื่อไทยมิได้แล้งไร้ผู้นำ เพียงแต่มิได้สำแดงตัวออกมาอย่างโฉ่งฉ่าง

เพียงแต่รอจังหวะเวลาอันเหมาะสม เพียงแต่รอผ่านการกลั่นกรองจากการต่อสู้ที่เป็นจริงในยามหน้าสิ่วหน้าขวานและในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองเท่านั้น

เพราะว่า "ในยามยากย่อมพิสูจน์มิตรแท้และคนจริง" ให้เป็นที่ประจักษ์

ที่มา.ข่าวสดรายวัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น