
เป็นแนวทางที่ กห. กำหนดขึ้นภายใต้ความเห็นชอบของ คณะรัฐมนตรี เพื่อควบคุมการใช้กำลังให้อยู่ภายใต้กฎหมาย และ เป็นแนวทางการใช้อาวุธต่อสถานการณ์ที่มีการจลาจลเกิดขึ้น เพื่อให้กำลังของกองทัพไทยสามารถใช้กำลังเพื่อบรรลุภารกิจ โดย กฎการใช้กำลัง นี้จะไม่เป็นข้อจำกัดที่ทำให้กำลังพลสูญเสียสิทธิในการป้องกันตนเอง
การใช้กำลัง
๑. ใช้กำลังตามความจำเป็นของสถานการณ์
๒. ก่อนการใช้กำลังให้มีการแจ้งเตือนก่อน เว้นแต่ในกรณีที่ฝ่ายเราถูกโจมตีก่อน
๓. การใช้กำลังเพื่อบังคับผู้ชุมนุมปฏิบัติตามคำสั่งหรือกรณีที่มีการฝ่าฝืนคำสั่ง
๓.๑ เตือนด้วยวาจาให้หยุดการกระทำหากไม่หยุดให้แสดงท่าพร้อมใช้กำลัง
๓.๒ หากฝ่าฝืนให้ใช้กำลังเพื่อกักตัวหรือทำการจับกุม โดยใช้กำลังที่เหมาะสม
๓.๓ การปฏิบัติต่อ สตรี เด็กและคนชราจะต้อเพิ่มความระมัดระวัง เหมาะสมกับสถานภาพ
๔. การใช้กำลังเข้าสลายฝูงชน ให้อยู่ในอำนาจของผู้บังคับบัญชาทหารในพื้นที่ ที่ได้รับคำสั่งให้รับผิดชอบในการปราบปรามจลาจล
๕. การใช้กำลังป้องกันตนเองหรือทรัพย์สินของทางราชการ ป้องกันการกระทำความผิดซึ่งหน้า หรือปกป้องชีวิตผู้อื่นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึง สามารถกระทำได้ตามความจำเป็น แต่ต้องพอสมควรแก่เหตุ
การใช้อาวุธ
๑. ใช้เฉพาะในสถานการณ์วิกฤติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
๒. หากสามารถกระทำได้ให้เตือนก่อนว่า จะใช้กำลังเข้าสลายฝูงชน
๓. การใช้กระบอง ให้ใช้ในกรณีผลักดันกลุ่มคนออกจากพื้นที่
๓.๑ ต้องเตือนก่อน เว้นแต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย
๓.๒ หากจำเป็นต้องทำการตี ต้องไม่ตีที่บริเวณอวัยวะสำคัญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรือทำให้พิการ
๔. การยิงกระสุนยาง ให้ใช้ต่อเป้าหมายที่กระทำการหรือมีท่าทีคุกคามต่อชีวิตเรา โดยกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน จะต้องเล็งยิงให้กระสุนยางกระทบส่วนล่างของร่างกายของผู้ที่เป็นเป้าหมาย จะต้องไม่ยิงในระยะใกล้กว่า ๒๐ เมตร เว้นแต่มีภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อชีวิตซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
๕. การใช้น้ำฉีด ให้ใช้ในกรณีการสลายฝูงชน โดยใช้แรงดันเท่าที่จำเป็น และอย่าฉีดน้ำไปยังบริเวณอวัยวะที่บอบบาง เช่น ดวงตา
๖. การใช้สารควบคุมการจลาจลในการสลายฝูงชนอยู่ในอำนาจของ ผู้บังคับบัญชาทหารที่ไดรับคำสั่งให้รับผิดชอบในการปราบปรามการจลาจล หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
๗. การใช้ ลูกระเบิดแก๊สน้ำตา
๗.๑ระยะยิง/ขว้าง ต้องไม่ต่ำกว่า ๒๕ เมตร
๗.๒ มุมการยิง/ขว้าง ต้องไม่ถูกยิงหรือขว้างไปโดนตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
๗.๓ ระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายแก่กลุ่มบุคคลใกล้เคียงที่ไม่เกี่ยวข้อง
๘.การใช้อาวุธประจำกาย สามารถทำได้ตามความจำเป็นเพื่อป้องกันตนเองหรือชีวิตผู้อื่น แต่จะต้องพอสมควรแก่เหตุ และให้ยุติการใช้ เมื่อภัยคุกคามนั้นสิ้นสุดลง
๙. ห้ามใช้อาวุธที่มีอำนาจการทำลายสูงกว่าอาวุธประจำกาย เช่น เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.๗๙ ลูกระเบิดสังหาร ระเบิดเพลิง ปืนกลเบา ปืนกลประจำรถถัง ปืนต่อสู้อากาศยาน เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ อาวุธที่ติดกับอากาศยานทุกชนิด
หมายเหตุ
- เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ต้องดำเนินการช่วยเหลือทางการแพทย์ : ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดควรได้รับการปฐมพยาบาลโดยเร็วที่สุด
- มาตรการเสริม ให้เป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาทหารที่ได้รับคำสั่ง หรือมอบอำนาจให้รับผิดชอบในการปราบจลาจล
ข้อแนะนำในการปฏิบัติของกำลัง รส.ในการควบคุมและสลายฝูงชน
จะต้องใช้มาตรการจาก เบาไปหาหนักเป็นลำดับ ดังนี้
1.ปจว.กับผู้ชุมนุมโดยรถติดเครื่องขยายของหน่วย
2. ใช้รถดับเพลิงฉีดเพื่อควบคุมฝูงชน
3. ใช้แก๊สน้ำตา
4.ใช้กำลังเข้าตัด ฝูงชน/ ควบคุมแกนนำ / รถ/เครื่องเสียง และ ผลักดัน ฝูงชนที่แตกแยก
5. ควบคุมพื้นที่
วิธีปฏิบัติเมื่อเข้าปะทะ
ถ้าการต้านทานไม่รุนแรง ให้ดันเท่านั้น ไม่ใช้กระบอง
ถ้าการดันไม่ได้ผลทำให้รูปขบวนถอย จำเป็นต้องใช้กระบองตามยุทธวิธี
การใช้แรงผลักดันอย่างเดียวจะไม่สามารถผลักดันให้ถอยหลังได้ จำเป็นต้องให้ฝูงชนผลักดันกันเองเนื่องจากความเจ็บปวดจะทำให้ไม่ต้องการปะทะเจ้าหน้าที่(แรงดันกลับ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น