ทั้งๆ ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมายอมรับเรื่อง การโอนเงิน การขนเงินสด เข้ามาในประเทศ
"ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้เลย ในที่ประชุมฝ่ายความมั่นคงที่สนามบินดอนเมืองที่ผ่านมาก็ไม่มีการรายงานเรื่องนี้แต่อย่างใด"
แต่ดูเหมือน นายเทพไท เสนพงศ์ จะรู้อะไรลึกกว่า
"รัฐบาลได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของเงินมากผิดปกติในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมาจึงได้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ข้อมูลเกี่ยวข้องกับความมั่นคงจึงไม่สามารถเอาหลักฐานมาเปิดเผยต่อสาธารณะได้"
ลึกกว่าในฐานะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ เป็นโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี
นี่ย่อมมีสถานะเหนือกว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างแน่นอน
เพราะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เสมอเป็นเพียง รองนายกรัฐมนตรี
ต้องยอมรับว่ากระบวนการ "รายงาน" ในยุคที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีดำเนินไปอย่างสลับซับซ้อน
แทนที่ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงจะได้รับรู้
ตรงกันข้าม กระบวนการ "รายงาน" ผ่านไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วจึงให้โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคเป็นผู้นำมาเปิดเผย
หากกระบวนการ "รายงาน" ในเรื่องลับๆ ไม่ดำเนินไปอย่างยอกย้อน
ไฉนพรรคประชาธิปัตย์จึงจะรับรู้เรื่องการโอนเงินและขนเงินสดๆ หลายหมื่นล้านบาทผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง
ทั้งบอกด้วยว่าการโอนเงินผ่านอดีตรัฐมนตรีชื่อย่อ ส ชื่อย่อ พ
ทั้งบอกด้วยว่าการโอนเงินผ่านนักธุรกิจเครื่องดื่มชื่อดัง ป ผ่านเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อ ส และทนายความชื่อย่อ ว เป็นคนทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์
เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไม่รู้ แต่พรรคประชาธิปัตย์รู้
อย่าว่าแต่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์จะไม่รู้เลย
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ก็ไม่รู้
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็ไม่รู้
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ไม่รู้
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเครื่องตรวจสอบ ซีทีเอ็กซ์ อยู่ในมือก็ไม่รู้
แต่ นายปณิธาน วัฒนายากร รู้
แต่ นายเทพไท เสนพงศ์ รู้
นี่ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการบริหาร "ข่าวกรอง" และธุรกรรมทางการเงินจะมีปัญหาเท่านั้น หากแม้กระทั่งกระบวนการบริหาร "บ้านเมือง" โดยผ่านรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก็มีปัญหา
เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งเมื่อมองผ่านกระบวนการบริหารจัดการ
ประเด็นที่เสนอเข้ามาก็คือ แล้วชาวบ้านทั่วไปจะเชื่อถือ "ข่าว" ที่มาจากไหน
เชื่อถือข่าวจากปากโฆษกรัฐบาล เชื่อถือข่าวจากปากโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือเชื่อถือข่าวจากปากรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง
หรือว่าที่เห็นและเป็นอยู่เสมอเป็นเพียงอาการผายลมทางปาก
ที่มา:ข่าวสดรายวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น