--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ใครเผลอก็ตาย!

แม้จะเป็น “เสือแก่” ไร้เขี้ยวเล็บที่แหลมคมและกำลังวังชาถดถอยตามสังขาร แต่ก็ไม่ได้ไร้กึ๋นไร้สมองเป็นพวก “แก่กะโหลกกะลา”

“ป๋าเหนาะ” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวังน้ำเย็น แม้จะประกาศ “ล้างมือในอ่างทองคำ” ปล่อยให้รุ่นลูกรุ่นหลานรับมรดกน้ำเน่าต่อไป

แต่วันนี้ “เสือแก่” อาจต้องลากสังขารกลับลงบ่อน้ำเน่าอีกครั้งเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี หลังจากถูก “เจาะยาง” จาก “สะตอ” ที่กัดไม่ปล่อยกรณีที่ดินอัลไพน์ จนกระทั่ง ป.ป.ช. เชือดว่าเป็นการ “ทุจริต” ต่อไปก็อยู่ที่อัยการจะเป็นเต่าหรือกระต่าย เพื่อดำเนินการส่งศาลการเมืองเชือดต่อ

แต่น้ำเน่าก็คือน้ำเน่า!

การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ จึงไม่แปลกถ้าจะทำให้ทุกอย่างเป็น “สีเทา”

คดีการเมืองมากมายที่ถูกหมกเม็ดจนหมดอายุ หรือใช้กระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นบิดเบือนประเด็น อย่างกรณีที่ดินเขายายเที่ยงเห็นชัดเจนถึงตาชั่ง 2 มาตรฐาน

แม้แต่รัฐบาลยังถูกประณามเป็นเยี่ยง “โจรปล้นอำนาจ”

กว่า 1 ปีของ “หล่อหลักลอย” จึงยังวนเวียนอยู่แค่การเดินสาย “สร้างภาพ” ตวัดลิ้นและโชว์ตัวให้ผ่านพ้นไปวันๆ

ใน “แก๊งโจรสลัด” จะตั้งโต๊ะกินหัวคิว กินเปอร์เซ็นต์ กินโควตา เล่นพรรคเล่นพวกไม่พอ ยังปิดห้อง “ตุ๋ยเด็ก” อีก

“แต๋วแตก” จึงไม่ใช่มีเฉพาะ “สีเขียว” แต่ “สัตว์การเมือง” ก็ “แต๋ว” และ “ตุ๊ด” กันสนุกสนาน!

“หล่อหลักลอย” ไม่ใช่จะใบ้รับประทานกับ “ก๊วนร่วมแก๊ง” เท่านั้น แม้แต่ใน “ก๊วนสะตอ” ก็ร้อนระอุ เพราะ “ผู้มีบารมี” ในก๊วนรวมหัวกัน “ขีดเส้น” ให้เลือกระหว่าง “ปัจจุบัน” กับ “อนาคต”

เพราะเห็นว่าหาก “หล่อหลักลอย” ยังป้อไปป้อมาและต้อง “ปิดหู ปิดตา ปิดปาก” เป็นเหมือน “ลิง 3 ตัว” ให้ “แก๊งโจรสลัด” โขกสับต่อไป ไม่เพียงนับถอยหลังเร็วแล้ว “อนาคต” ก็พลอยดับวูบลงไปด้วย

ถ้าจะดับเฉพาะอนาคต “หล่อหลักลอย” ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตีโพยตีพาย แต่จะต้องไม่ทำให้ “สะตอ” ดับทั้งก๊วนด้วย

โดยเฉพาะ “แม่นมอมทุกข์” ที่ไม่เพียงมีถุง “อุนจิ” คดี 258 ล้านบาทที่จ่อจะยุบก๊วนสะตอแล้ว ชื่อเสียงและเกียรติยศของ “สะตอ” ที่สะสมมา 63 ปีก็อาจไม่เหลือแม้แต่ความทรงจำ

สัญญาณที่ส่งผ่านออกมาขณะนี้จึงไม่ใช่แค่เปลี่ยน “แม่บ้าน” แม้แต่ “หล่อหลักลอย” ก็อาจถอดหัวโขนเร็วกว่าที่คิด

เพราะ “งูเห่ากับพังพอน” เป็นคู่กัดกันตลอดกาล ใครดีใครอยู่ ใครเผลอก็ตาย!

จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้

**********************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น