--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

** ลิเกการเมือง **

หลายคนก็ยังงง-งง..ใช้ระยะเวลามาเป็นปีแล้วที่ “คนเสื้อแดง” เล็งเป้าหมาย รื้อเครือข่าย “อำมาตย์” ให้สิ้นซาก
แบบถอนรากถอนโคน

คำถามของคนรุ่นใหม่ก็คือ “อำมาตย์” คืออะไร?- เป็นใคร?-ผู้ใด?-มาจากไหน? อยากจะเข้าร่วมกิจกรรมขับไล่ด้วย..แต่ยังไม่เข้าใจ
ความหมายของคำว่า “อำมาตย์”!!

เผอิญติดลิเกงอมแงมซะด้วย..จึงยังพอที่จะอธิบายได้ เสนา -อำมาตย์-ปุโรหิต!! ตอบอย่างไม่อายก็ได้ความรู้มาจากการ “ดูลิเก” นี่แหละ!!

ทำไม..บ้านเมืองที่ยุ่งเหยิงอยู่ในขณะนี้..จะต้องมาไล่กันเฉพาะ “อำมาตย์”..เท่านั้น ส่วน เสนา กับ ปุโรหิต ปล่อยไปกระนั้นหรือ?

“เสนา” เป็นบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีพิษมีภัยคอยตามรับใช้อย่างซื่อสัตย์. ไม่ใช่ชนชั้นนำ มีหน้าที่แค่ “ยกกระโถน” ไม่เกี่ยวกับ
“เสนาหอย” กับ “เสนาโค้ก” นะครับ

ส่วน “ปุโรหิต” คือ พวก พราหมณ์-นักบวช หรือ หมอดู..กลุ่มนี้เป็นผู้ที่จะคอยติดตามดู “ชะตาดวงเมือง” และ ช่วยชี้แนะให้กับ
ผู้ครองบ้านครองเมือง

หาก..“ปุโรหิต” ถ้าจิตคิดไม่ซื่อ.ทำการชี้แนะเพื่อ “ผลประโยชน์” ซ่อนลึกและมีผู้คนเชื่อกันอย่างหัวปักหัวปำ!!
บ้านเมืองก็ย่อยยับได้เช่นเดียวกัน

เพราะกว่าจะขึ้นมาเป็น “ปุโรหิต” ได้..ก็ต้องเกิดจาก ความศรัทธา และ บารมี ที่สั่งสมไว้ไม่น้อย เห็นลิเก-ลิเกนี่นะ ฤทธิ์เดชเหลือร้ายทั้งนั้น!!

ที่นี้ก็มาถึง “อำมาตย์” ถ้าเป็นลิเกสมัยก่อน ก็มีแค่ “อำมาตย์” กลุ่มเดียว!!

แต่ “อำมาตย์” สมัยใหม่ มีหลายกลุ่ม ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ทุกสถาบัน ที่ไม่ใช่เอกชน กินเงินเดือนหลวง คือ “อำมาตยา” ทั้งนั้น!!

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก มี ยศถาบรรดาศักดิ์..เมื่อถึงเวลาจะไป ก็ไม่ยอมไป เฝ้าแต่ “หวงแหนอำนาจ” ที่เคยหวานชื่นในอดีต..
เปรียบคนที่ตายแล้วแต่ไม่ยอมให้เผา.. หรือ “ผี” ที่ไม่ยอมไปเกิด..นั่นแล!!


โดย.หนุ่ม ชิงชัย
***************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น