วันนี้บางท่านก็บอกว่าเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง บางท่านก็บอกว่าเป็นวันไม่ธรรมดาที่จะต้องมีการ ตัดสินคดีสำคัญทางการเมือง และจะเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีกวันหนึ่ง นานาจิตตัง
ความเปลี่ยนแปลงหลังการตัดสินคดียึดทรัพย์จะตามมาอย่างไร เป็นคลื่นใต้น้ำ ยากที่จะคาดเดา ทุกอย่างอาจกลับเข้าสู่ความสงบ หรือบ้านเมืองลุกเป็นไฟ เป็นไปได้ทั้งนั้น
คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีมูลเหตุจากการขายหุ้นจำนวน 1,487.7 ล้านหุ้น มูลค่า 73,269 ล้านบาท ให้กับกองทุนเทมาเส็ก เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 และนำมาซึ่งข้ออ้างในการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ด้วยเช่นกัน
ในทางธุรกิจ ในทางกฎหมายข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ซึ่งที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้ลงคะแนนเลือกองค์คณะผู้พิพากษาคดีนี้เมื่อ 2 กันยายน 2551 เป็นจำนวน 9 ท่านด้วยกัน
เนื่องด้วยระยะเวลาในการพิจารณาคดีค่อนข้างจะยาวนานต่อมาได้มี องค์คณะลาออก 4 ท่าน ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน และได้มีการตั้งผู้พิพากษาท่านอื่นเข้ามาเป็นองค์คณะจนครบองค์ประชุม
มีข้อโต้แย้งจากฝ่ายจำเลย เกี่ยวข้องกับองค์คณะผู้พิพากษาซึ่งเป็นเหตุผลที่เกี่ยวเนื่องมาจากคดีทางการเมืองที่ผ่านมา รวมทั้งข้อกฎหมายที่แตกต่างกันระหว่างรัฐธรรมนูญปี 2540 กับปี 2550 ทั้งอายุผู้พิพากษาและอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคดีในชั้นศาลต่างๆ สุโขทัยธรรมาธิราช อดีต สสร.แสดงความเห็นกรณีดังกล่าวว่า การพิจารณาคดีจะใช้ระบบการดำเนินคดีอาญาตามปกติทั่วไป ตามวิธีพิจารณาความอาญา และศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นศาลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อนักการเมืองโดยเฉพาะเท่านั้น
สำหรับที่มาขององค์คณะที่พิจารณาคดีจะถูกเลือกในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา หมุนเวียนกันไป ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการวิ่งเต้นช่วยเหลือคู่ความ ดังนั้น องค์คณะผู้พิพากษาก็จะพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน ว่าจะไม่ยึดทรัพย์ จะยึดทรัพย์ทั้งหมด หรือคืนบางส่วน
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายก็คือ การขายหุ้นชินคอร์ปฯ ของบุคคลในครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ ซึ่งมี 2 ส่วนคือ หุ้นสัญชาติไทยและหุ้นกระดานต่างประเทศ ให้บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้ง และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ เป็นการขายหุ้นในสัดส่วนเดิมหรือไม่ ได้มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือครองหุ้นของคนต่างด้าวในบริษัทชินคอร์ปฯหรือไม่ และแม้ไม่มีการแก้กฎหมายจะมีผลอย่างไรกับการขายหุ้น
มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ
ต้องอาศัยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะมาประกอบในการพิจารณาคดี ดังนั้น คดีสำคัญที่จะมีการอ่านคำพิพากษาคดีในวันนี้ ไม่เฉพาะเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองเท่านั้น แต่จะเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีที่ซับซ้อนเกี่ยวข้องระหว่างธุรกิจกับการเมืองทำนองนี้ต่อไปด้วย
บนพื้นฐานความเป็นธรรมและความชอบธรรม.
ที่มา:ไทยรัฐ
คอลัมน์คาบลูกคาบดอก
โดย.หมัดเหล็ก
*******************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น