--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แก้ไม่ถูกจุด...!!!!???

วิพากษาวิจารณ์กันมาแทบทุกยุคทุกสมัยเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ

พอโผตำรวจประกาศออกมา ก็ต้องร้องเรียนเป็นประจำ

ไม่ใช่การร้องเรียนไม่ดี

เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตำรวจที่ร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นตำรวจที่ไม่ได้รับความยุติธรรม

บางนายมีอาวุโสสูงติดอันดับต้นๆ ผลงานก็อยู่ในเกณฑ์ดี หลักเกณฑ์ข้อกำหนดต่างๆ ก็ครบถ้วน

แต่พอถึงเวลาโยกย้ายจริงๆ กลับไม่ได้รับการพิจารณา

โดนพวกเด็กเส้นเงินหนากระเป๋าหนัก วิ่งเต้นข้ามหัวกันหน้าตาเฉย !?

แต่ก็ยังมีอีกพวกที่จ่ายเงินเซ็งลี้เก้าอี้ไปแล้วแต่กลับไม่ได้รับการแต่งตั้ง

ก็ต้องร้องเรียนกับเค้าด้วย หวังทวงสิทธิ์ที่ไม่ค่อยจะชอบธรรมให้ตัวเอง

เพราะแวดวงสีกากีมีเซ็งลี้เก้าอี้กันทุกยุค แต่จะมากหรือน้อยแค่นั้นเอง

ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็ไม่เห็นจะแก้ปัญหานี้ได้

พอมาถึงรัฐบาลนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อยู่ไม่เป็นสุข รีบลงนามในคำสั่งแต่งตั้งตั้งคณะกรรมการสอบซื้อขายตำแหน่ง

กำชับด้วยว่าให้เริ่มดำเนินการสอบสวนเลย

เพราะคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้การ-สารวัตรมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.พ.นี้

การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา คงเป็นเพราะนายกฯ มาร์คทนกระแสสังคมไม่ไหวเลยต้องรีบสะสาง และอาจมองข้ามไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านฮึ่มๆ จะยื่นอยู่เร็วๆนี้

หากคลายปมปัญหาตรงนี้ไม่ได้ ปล่อยให้ถึงเวลาเปิดสภา มีหวังโดนฝ่ายค้านถล่มอ่วมอรทัย

อาจเสียผู้เสียคนเพราะคนใกล้ชิดก็คราวนี้ !?

ย้อนกลับไปเรื่องตั้งคณะกรรมการสอบเซ็งลี้เก้าอี้ ถ้านายกฯมาร์คอยากให้ได้ภาพใสสะอาด ยุติธรรม

ต้องจัดการกับ "บิ๊กตำรวจ" ที่เป็นโต้โผขายเก้าอี้ให้ได้จริง !!

และต้องไม่ 2 มาตรฐาน เพราะการวิ่งเต้นซื้อขายไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแวดวงตำรวจอย่างเดียว

ตั๋วเด็กเส้นเด็กฝากส่วนใหญ่มาจากนักการเมือง

ยิ่งหนนี้ก็ชัดเจน คนสนิทคนใกล้ตัวนายกฯส่งตั๋วกันเป็นปึกๆ

ขาใหญ่ม็อบที่นายกฯ ไว้เนื้อเชื่อใจเป็นพิเศษก็จับมือกับตำรวจเก่าบางคนฝากเด็กเป็นโขยง

ถ้าแน่จริงต้องสาวให้ถึงพวกนี้ให้ได้

สังคมจะได้ไม่แคลงใจอีก

แต่เอาเข้าจริงๆ นายกฯ อาจแก้ไม่ถูกจุด หรือมองข้ามต้นตอปัญหาที่แท้จริงไป

ตำรวจทั้งหมดรู้ดีว่าการซื้อขายตำแหน่งครั้งนี้มโหฬารกว่าทุกครั้ง เพราะยังไม่มีผบ.ตร.ตัวจริงเสียที

รักษาการผบ.ตร.อาจดูเหมือนจะมีอำนาจเทียบเท่าทุกอย่าง แต่ก็เป็นแค่ตัวสำรอง

ไม่มีบารมีพอที่จะไปชนกับนักการเมือง หรือไปควบคุมผู้บัญชาการทั้งหมด

ฉะนั้น อย่าประโคมข่าวสอบเซ็งลี้เก้าอี้

เพื่อกลบปัญหาตั้งผบ.ตร.ที่คาราคาซังเท่านั้น

ที่มา:ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์ เหล็กใน
**************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น