--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

** ก่อนและหลัง 26 กุมภา **

ภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 คือ ภาพของผู้ร้ายที่ทำลายเสถียรภาพ
ทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตยที่ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซง องค์กรอิสระ

ในขณะที่ภาพของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ คือ ภาพขององคมนตรี ภาพของคนดีที่ยังไม่มีตำหนิ รอยแผลแห่งความด่างพร้อย

ภาพของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน คือ ภาพของผู้ชายในระบอบประชาธิปไตย ที่ปล้นเอาประชาธิปไตยจากประเทศไทยและคนไทย
แต่ในทางตรงกันข้ามกัน ภาพของ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน คือ ภาพแห่งความชื่นชมของกองทัพที่ออกมาจัดการปัญหา

ความแตกแยกของคนไทยที่คาดเดาว่า จะเกิดความรุนแรงหลังจากนั้นทั้งหมด คือ ภาพก่อน 19 กันยายน 2549
ก่อนมีการปฏิวัติครั้งสุดท้ายในประเทศไทย และเป็นการปฏิวัติที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ของคนไทย หรือแม้กระทั่งกองทัพ
แต่ก็หมิ่นเหม่ต่อการจะเกิด ยั่วยุให้เกิด จะด้วยเหตุใด จากความคิดของใครก็ตาม

วันนี้ภาพของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กลายเป็นภาพต่างกับก่อนปฏิวัติกลายเป็น องคมนตรีบุกรุกป่าสงวน จนต้องยอมรื้อบ้านที่
เขายายเที่ยง ภาพของคนคนเดียวกันจึงเปลี่ยนไป

ในขณะที่ภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วันนี้ กลายเป็นภาพของผู้เรียกร้อง ประชาธิปไตย เป็นภาพของการเรียกร้อง สมบัติคืน
จากการถูกยึดทรัพย์ อ้างว่า การดำเนินการเป็นสองมาตรฐาน

แต่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิพากษาคดี 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

วันนั้นจะสร้างความเป็นมาตรฐานเดียวกันได้ ด้วยความจริง ของข้อกฎหมายไม่ใช่ความรู้สึกของคนที่อยู่คนละข้าง

ความท้าทายอยู่ที่ คำตัดสินและอยู่ที่เหตุผลของข้อกฎหมาย

สำคัญที่สุด คือความเชื่อของคนทั้งหลายว่า บริสุทธิ์และยุติธรรมศาลต้องพิสูจน์ตัวเอง



โดย.มด คันไฟ
***************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น