
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งยกเลิกการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ว่า ตนเคยดูการทดสอบใช้ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ยังสงสัยว่าจะตรวจได้หรือ เพราะเสาอากาศเหมือนเสาวิทยุบ้านหม้อ ตัวกระบอกเป็นพลาสติกหล่อ ไม่มีทรานซิสเตอร์เป็นกระป๋อง แล้วเอาการ์ดใบละสามบาทใส่เข้าไปเขย่าเพื่อส่งสัญญาณ ดูแล้วเหมือนกล่องเขย่าเซียมซี ตนเอากระสุนปืนและระเบิดวาง แต่ก็ตรวจไม่พบ
"มีอย่างที่ไหนใครเขาเดินหน้าลอยเฉิบๆ ตรวจระเบิด เอาหน้าเข้าไปหาระเบิดห่างแค่คืบเดียว เพราะปกติต้องใช้มีดแซะค่อยๆ หากว่าจะกู้ได้ค่อนข้างยาก แต่ที่ไหนได้จีที 200 เจ้าหน้าที่ต้องกินข้าวให้อิ่ม นอนให้หลับเดินเข้าหาระเบิด พอเอียงหน่อยถึงจะชี้ไปที่เป้าหมาย มันเป็นการตรวจระเบิดที่ปาหี่ ถามว่าราคา1.5 ล้านบาทอย่างนี้ต้องเอาของลับให้มันไป มีที่ไหนเครื่องกระป๋องอย่างนี้ราคาแพง เขย่ากันเหมือนกล่องเซียมซี สรุปแล้วใช้ไม่ได้" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวถึง พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ระบุเครื่องจีที 200 ไม่ใช่อุปกรณ์หลักในการตรวจวัตถุระเบิดว่า เดิมหมอพรทิพย์เป็นหมอตรวจพยาธิ บรรดาอาจารย์ศิริราช เคยออกมาด่า ต่อมาเป็นหมอผ่าศพ ก็แปลกอยู่แล้ว จากหมอพยาธิมาเป็นหมอผ่าศพ ซ้ำยังมาเป็นหมอตรวจระเบิดอีก แล้ววันนี้มาเป็นหมอตรวจบัตรเอทีเอ็ม.กล่องเซียมซี จีที 200 สงสัยมันจะบ้ากันใหญ่แล้วถ้าไปเชื่อหมอพรทิพย์
เมื่อถามว่า พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ตนเคยบอกมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วว่าเรื่องนี้สงสัยมีคอมมิชชั่นเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ไม่มีคนเชื่อ เพราะราคาเครื่องละไม่น่าถึงหนึ่งพันบาท แพงเกินความจริง งานนี้เป็นการต้มกันระดับชาติพวกปัญญาอ่อน ผู้บัญชาการทหารบก ต้องรับๆไปเต็มในฐานะผู้จัดซื้อจัดหา เมื่อมีการสอบสวนเกิดขึ้น ผู้บัญชาการทหารบก ก็รับไปเต็มๆ คนเป็นผู้บัญชาการทหารบกจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เพราะแจกจ่ายไปให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ใช้งาน คดีอย่างนี้ต้องมีคนไปแจ้งความแล้วสู้คดีกันอีก 10 ปีก็ยังไม่เสร็จยื้อไปอีกนาน พอดีกับผู้บัญชาการทหารบกเกษียณอายุราชการไปเสียก่อน
ที่มา:มติชนออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น