สมาคมค้าทองเตรียมเสนอแผนตั้งศูนย์กลางตลาดค้าทองในประเทศ จัดระเบียบการซื้อขาย ลดแรงกดดันค่าเงินผันผวน ก.ล.ต.ผนึกธปท.ดูแลการเก็งกำไรค่าเงิน
นายภควต โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา ผู้ถือหุ้นใหญ่ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า สมาคมค้าทองคำมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์กลางตลาดซื้อขายทองคำ (Gold Exchange) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของนักลงทุนที่ต้องการซื้อและขายทองคำแท่ง สามารถมาซื้อขายในตลาดนี้ซึ่งอยู่ภายในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายทองคำแท่งจะเป็นลักษณะนักลงทุนแต่ละรายซื้อ สั่งซื้อขายทองผ่านผู้ประกอบการแล้วผู้ประกอบการค้าทองก็จะนำเข้าทองจากต่างประเทศ
ดังนั้น หากมีตลาดซื้อขายทองคำแท่งในประเทศ เชื่อว่าจะลดแรงกดดันต่อการเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน เพราะการสั่งซื้อ-ขายทองคำแท่งจากต่างประเทศ จะเกี่ยวข้องกับการซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไปกระทบกับการดูแลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะทำหน้าที่ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ เนื่องจากปริมาณการเทรดทองคำแท่งในประเทศช่วง 2-3 ปีผ่านมามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นมาก จนติดอันดับ 3 ของเอเชีย
"หากมีตลาดซื้อขายทองคำแท่งในประเทศ ถ้านักลงทุนซื้อทองแท่งมากกว่าที่มีนักลงทุนเสนอขาย ก็ค่อยนำเข้าทองแท่งมา เฉพาะส่วนต่างระหว่างซื้อกับขาย ก็จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการซื้อเงินตราต่างประเทศ เพราะจะซื้อเฉพาะที่เป็นส่วนต่างกันเท่านั้น" นายภควัต กล่าว
เขายังกล่าวอีกว่า ข้อดีของการมีตลาดซื้อขายทองคำแท่ง จะเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ทำให้ต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อขายทองในประเทศไทยได้ด้วย แทนที่ผู้ประกอบการจะออกไปเทรดต่างประเทศ เช่น ที่ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอมาให้ผู้ประกอบการค้าทองในประเทศไปตั้งบริษัท เพื่อดึงรายการซื้อขายทองแท่งในไทยไป
นอกจากนี้ยังเป็นการจัดระเบียบการค้าทองในประเทศด้วย โดยอาจให้ตลาดหลักทรัพย์มาวางระบบให้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์มีประสบการณ์ทั้งตลาดหุ้นและตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะช่วยให้ตลาดซื้อขายล่วงหน้า มีความคึกคักเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากทั้งสองตลาดจะลิงค์ถึงกันได้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาที่ทำให้ตลาด Gold Exchange ยังไม่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าภาพที่จะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลความเรียบร้อย ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมก็เคยไปหารือกับหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ตลาดซื้อขายทองแท่งในประเทศปัจจุบันมีมูลค่ามหาศาล บางรายเทรดกันปีละเป็นแสนล้านบาท
"เท่าที่ผมทราบคุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทอง ได้มีแนวคิดการเรื่องจัดตั้งตลาดค้าทองมานานแล้วประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปในสมาคมฯ รวมทั้งยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ในการจัดตั้งและกำกับหากตั้งเป็นตลาดค้าทองแท่งในประเทศ"นายภควัตกล่าว
ทั้งนี้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเอเชีย ที่นิยมการบริโภคและลงทุนทองคำอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บริหารของ ธปท. และดีลเลอร์ในตลาดเงิน ระบุตรงกันว่า ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ จะมีผลต่อค่าเงินบาท โดยถ้าราคาทองคำปรับตัวลง จะมีการซื้อดอลลาร์เพื่อนำไปซื้อทอง แต่ในทางกลับกัน ถ้าราคาทองคำปรับขึ้น จะทำให้มีการขายทำกำไรทอง และขายดอลลาร์ เช่นกัน
ก.ล.ต.พร้อมร่วมมือธปท.สอบเก็งกำไร
ด้าน นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.พร้อมหารือและให้ความร่วมมือกับ ธปท. ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการทองคำในเรื่องการเก็งกำไรค่าเงิน อย่างไรก็ตาม บทบาทหน้าที่ของก.ล.ต.กำกับดูแลเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายล่วงหน้า หรือฟิวเจอร์สเท่านั้น
ขณะที่การซื้อขายทองแท่งหรือรูปพรรณอยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเข้าใจว่าทาง ธปท.มีความกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นหาก ธปท.เห็นว่ามีส่วนใด หรือแนวทางใดที่ ก.ล.ต.ช่วยเหลือได้ ก็ยินดี ซึ่งจะต้องมีการหารือกัน แต่ ปัจจุบัน ยังไม่ได้หารือกัน และ ธปท.เอง ก็ยังไม่ได้มีการข้อมูลใดๆ เข้ามา
ย้ำดูแลเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
"หากเป็นการซื้อขายทองคำที่ไม่ใช่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก.ล.ต.ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจ ก.ล.ต. อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้ประกอบการที่ได้ใบอนุญาตประกอบกิจการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าจาก ก.ล.ต. ก็มีทั้งส่วนที่เป็นโบรกเกอร์ และผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้มีการประชุมหารือกับผู้ประกอบการกลุ่มนี้อยู่เสมอ ในการหารือครั้งถัดไป อาจจะมีการสอบถามพูดคุย และตักเตือนว่าไม่ควรทำอะไรที่ไม่เหมาะสม"
สำหรับการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น ปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) อาจจะลดลงบ้าง แต่ไม่มาก และมองว่าไม่มีความสัมพันธ์กันกับประเด็นการเก็งกำไรค่าเงินของผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ขณะที่จำนวนการขออนุมัติวงเงินไปลงทุนต่างประเทศ ของนักลงทุนไทยก็อยู่ในระดับปกติ
เปิด 3 ขั้นตอนสอบซื้อขายล่วงหน้าทอง
ด้าน นายธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการร้านค้าทองคำนั้น ก.ล.ต.ทำได้เฉพาะในส่วนที่ ก.ล.ต.รับผิดชอบเท่านั้น โดย ก.ล.ต.จะตรวจสอบใน 3 ส่วน คือ 1.ดูว่าการซื้อขายทองคำนั้น เป็นการซื้อขายล่วงหน้าล่วงหน้าหรือไม่ 2.หากพบว่าเป็นการซื้อขายล่วงหน้า ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง หรือเป็นผู้ประกอบการเถื่อนหรือไม่ และ 3.หลังจากนั้นถึงจะตรวจสอบว่าได้ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามที่ใบอนุญาตกำหนดหรือไม่
เล็งพบธปท.แจงข้อมูลค้าทอง
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สมาคมฯ จะขอเข้าหารือกับธปท. เพื่อชี้แจงและกำหนดแนวทางการป้องกันปัญหาการเก็งกำไรค่าเงินผ่านตลาดทองคำ ซึ่งผู้ประกอบการไม่มีการเก็งกำไรค่าเงินผ่านการซื้อขายในตลาดทองคำ เนื่องจากได้มีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน ผ่านสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าอยู่แล้ว และการซื้อขายทองคำในแต่ละครั้ง จะมีการรายงานข้อมูลให้กับทาง ธปท.รับทราบ ซึ่ง ธปท.จะมีข้อมูลในส่วนนี้ชัดเจน
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท แม่ทองสุก เอ็มทีเอส โกลด์ กล่าวว่า ขณะนี้สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ อยู่ระหว่างการรอคำตอบจากทางผู้ว่าการธปท.ว่าจะให้เข้าพบเมื่อใด เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าพบภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ ทั้งนี้ปัจจุบันสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ มีผู้ประกอบการร้านทองเป็นสมาชิก 7 ราย มีสัดส่วนการนำเข้าส่งออกกว่า 90% ของประเทศ
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
//////////////////////////////////////////////////////////
นายภควต โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา ผู้ถือหุ้นใหญ่ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า สมาคมค้าทองคำมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์กลางตลาดซื้อขายทองคำ (Gold Exchange) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของนักลงทุนที่ต้องการซื้อและขายทองคำแท่ง สามารถมาซื้อขายในตลาดนี้ซึ่งอยู่ภายในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายทองคำแท่งจะเป็นลักษณะนักลงทุนแต่ละรายซื้อ สั่งซื้อขายทองผ่านผู้ประกอบการแล้วผู้ประกอบการค้าทองก็จะนำเข้าทองจากต่างประเทศ
ดังนั้น หากมีตลาดซื้อขายทองคำแท่งในประเทศ เชื่อว่าจะลดแรงกดดันต่อการเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน เพราะการสั่งซื้อ-ขายทองคำแท่งจากต่างประเทศ จะเกี่ยวข้องกับการซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไปกระทบกับการดูแลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะทำหน้าที่ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ เนื่องจากปริมาณการเทรดทองคำแท่งในประเทศช่วง 2-3 ปีผ่านมามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นมาก จนติดอันดับ 3 ของเอเชีย
"หากมีตลาดซื้อขายทองคำแท่งในประเทศ ถ้านักลงทุนซื้อทองแท่งมากกว่าที่มีนักลงทุนเสนอขาย ก็ค่อยนำเข้าทองแท่งมา เฉพาะส่วนต่างระหว่างซื้อกับขาย ก็จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการซื้อเงินตราต่างประเทศ เพราะจะซื้อเฉพาะที่เป็นส่วนต่างกันเท่านั้น" นายภควัต กล่าว
เขายังกล่าวอีกว่า ข้อดีของการมีตลาดซื้อขายทองคำแท่ง จะเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ทำให้ต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อขายทองในประเทศไทยได้ด้วย แทนที่ผู้ประกอบการจะออกไปเทรดต่างประเทศ เช่น ที่ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอมาให้ผู้ประกอบการค้าทองในประเทศไปตั้งบริษัท เพื่อดึงรายการซื้อขายทองแท่งในไทยไป
นอกจากนี้ยังเป็นการจัดระเบียบการค้าทองในประเทศด้วย โดยอาจให้ตลาดหลักทรัพย์มาวางระบบให้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์มีประสบการณ์ทั้งตลาดหุ้นและตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะช่วยให้ตลาดซื้อขายล่วงหน้า มีความคึกคักเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากทั้งสองตลาดจะลิงค์ถึงกันได้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาที่ทำให้ตลาด Gold Exchange ยังไม่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าภาพที่จะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลความเรียบร้อย ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมก็เคยไปหารือกับหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ตลาดซื้อขายทองแท่งในประเทศปัจจุบันมีมูลค่ามหาศาล บางรายเทรดกันปีละเป็นแสนล้านบาท
"เท่าที่ผมทราบคุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทอง ได้มีแนวคิดการเรื่องจัดตั้งตลาดค้าทองมานานแล้วประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปในสมาคมฯ รวมทั้งยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ในการจัดตั้งและกำกับหากตั้งเป็นตลาดค้าทองแท่งในประเทศ"นายภควัตกล่าว
ทั้งนี้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเอเชีย ที่นิยมการบริโภคและลงทุนทองคำอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บริหารของ ธปท. และดีลเลอร์ในตลาดเงิน ระบุตรงกันว่า ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ จะมีผลต่อค่าเงินบาท โดยถ้าราคาทองคำปรับตัวลง จะมีการซื้อดอลลาร์เพื่อนำไปซื้อทอง แต่ในทางกลับกัน ถ้าราคาทองคำปรับขึ้น จะทำให้มีการขายทำกำไรทอง และขายดอลลาร์ เช่นกัน
ก.ล.ต.พร้อมร่วมมือธปท.สอบเก็งกำไร
ด้าน นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.พร้อมหารือและให้ความร่วมมือกับ ธปท. ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการทองคำในเรื่องการเก็งกำไรค่าเงิน อย่างไรก็ตาม บทบาทหน้าที่ของก.ล.ต.กำกับดูแลเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายล่วงหน้า หรือฟิวเจอร์สเท่านั้น
ขณะที่การซื้อขายทองแท่งหรือรูปพรรณอยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเข้าใจว่าทาง ธปท.มีความกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นหาก ธปท.เห็นว่ามีส่วนใด หรือแนวทางใดที่ ก.ล.ต.ช่วยเหลือได้ ก็ยินดี ซึ่งจะต้องมีการหารือกัน แต่ ปัจจุบัน ยังไม่ได้หารือกัน และ ธปท.เอง ก็ยังไม่ได้มีการข้อมูลใดๆ เข้ามา
ย้ำดูแลเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
"หากเป็นการซื้อขายทองคำที่ไม่ใช่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก.ล.ต.ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจ ก.ล.ต. อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้ประกอบการที่ได้ใบอนุญาตประกอบกิจการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าจาก ก.ล.ต. ก็มีทั้งส่วนที่เป็นโบรกเกอร์ และผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้มีการประชุมหารือกับผู้ประกอบการกลุ่มนี้อยู่เสมอ ในการหารือครั้งถัดไป อาจจะมีการสอบถามพูดคุย และตักเตือนว่าไม่ควรทำอะไรที่ไม่เหมาะสม"
สำหรับการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น ปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) อาจจะลดลงบ้าง แต่ไม่มาก และมองว่าไม่มีความสัมพันธ์กันกับประเด็นการเก็งกำไรค่าเงินของผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ขณะที่จำนวนการขออนุมัติวงเงินไปลงทุนต่างประเทศ ของนักลงทุนไทยก็อยู่ในระดับปกติ
เปิด 3 ขั้นตอนสอบซื้อขายล่วงหน้าทอง
ด้าน นายธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการร้านค้าทองคำนั้น ก.ล.ต.ทำได้เฉพาะในส่วนที่ ก.ล.ต.รับผิดชอบเท่านั้น โดย ก.ล.ต.จะตรวจสอบใน 3 ส่วน คือ 1.ดูว่าการซื้อขายทองคำนั้น เป็นการซื้อขายล่วงหน้าล่วงหน้าหรือไม่ 2.หากพบว่าเป็นการซื้อขายล่วงหน้า ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง หรือเป็นผู้ประกอบการเถื่อนหรือไม่ และ 3.หลังจากนั้นถึงจะตรวจสอบว่าได้ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามที่ใบอนุญาตกำหนดหรือไม่
เล็งพบธปท.แจงข้อมูลค้าทอง
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สมาคมฯ จะขอเข้าหารือกับธปท. เพื่อชี้แจงและกำหนดแนวทางการป้องกันปัญหาการเก็งกำไรค่าเงินผ่านตลาดทองคำ ซึ่งผู้ประกอบการไม่มีการเก็งกำไรค่าเงินผ่านการซื้อขายในตลาดทองคำ เนื่องจากได้มีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน ผ่านสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าอยู่แล้ว และการซื้อขายทองคำในแต่ละครั้ง จะมีการรายงานข้อมูลให้กับทาง ธปท.รับทราบ ซึ่ง ธปท.จะมีข้อมูลในส่วนนี้ชัดเจน
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท แม่ทองสุก เอ็มทีเอส โกลด์ กล่าวว่า ขณะนี้สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ อยู่ระหว่างการรอคำตอบจากทางผู้ว่าการธปท.ว่าจะให้เข้าพบเมื่อใด เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าพบภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ ทั้งนี้ปัจจุบันสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ มีผู้ประกอบการร้านทองเป็นสมาชิก 7 ราย มีสัดส่วนการนำเข้าส่งออกกว่า 90% ของประเทศ
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
//////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น