โดย.ศรี อินทปันตี
เมื่อวันที่ ๙ กันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ไปกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ ๒๔ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ปกติแล้วข่าวเรื่องนี้เป็นข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง โดยหากไม่ได้ดูถึงเนื้อหาที่นายกรัฐมนตรีพูดแล้ว ก็แทบจะไม่น่าสนใจอะไรนัก แต่ที่ต้องหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงก็เป็นเพราะว่า...
คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทยไทย ที่ได้รับเกียรติจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติให้ไปกล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมอันมีความสำคัญยิ่งระหว่างประเทศองค์กรนั้น
และมันก็บังเอิญประจวบเหมาะกับการ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอ่ยคำว่า “อีโง่” ออกมาอย่างตั้งอกตั้งใจและชัดถ้อยชัดคำ เมื่อกล่าวถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการไปเป็นประธานการประกวดสมาร์ทเลดี้ จนถูกสวดชยันโตไล่ผีป่ากันทั้งบ้านเมือง
เลยต้องสนใจมาวิพากษณ์วิจารณ์กันว่า...ทำไมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติจึงเชิญคนโง่ๆ ไปกล่าวคำปราศรัย หรือว่าองค์กรระดับโลกดังกล่าวมันโง่กันถึงขนาดที่ไอคิวอยู่ในระดับแค่ ๓๕ (เท่ากับไอคิวควาย)
เพราะถ้าฉลาดแล้ว ทำไมจึงไม่เคยเชิญนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ของประเทศไทย รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปกล่าวคำปราศรัยกันบ้าง
ในคำปราศรัยต่อที่ประชุมดังกล่าวนั้น คุณยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจของประชาธิปไตย และเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องยึดหลักประชาธิปไตย ไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย รัฐบาลต้องคงไว้ซึ่งการสนับสนุนคุณค่าประชาธิปไตยด้วยการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
คำพูดของคุณยิ่งลักษณ์ มันทำให้นึกถึงการกระทำของ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหารและสั่งใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมมือเปล่าเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ อัน
เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งโลก
เหตุนี้กระมังเขาจึงไม่เคยเชิญคุณอภิสิทธิ์ไปกล่าวคำปราศรัย
เพราะมิฉะนั้นแล้วคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คงจะได้รับฟังตรรกะอันพิลึกพิลั่นเฉกเช่นเดียวกับตรรกะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนการที่รัฐบาลใช้กำลังทหารปราบปรามประชาชนของตัวเอง
เป็นที่ยอมรับกันว่า คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐหญิงที่ได้รับการยกย่องว่า “Beautiful and smart” คือ ทั้งสวยทั้งเก่ง
ทั้งนี้ ๒ ปีของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากคนที่เคยเป็นแค่นักธุรกิจและแม่บ้านที่รู้เรื่องการเมืองแบบงูๆปลาๆ คุณยิ่งลักษณ์ได้พิสูจน์ให้ถึงความสามารถในการเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
นอกจากจะเป็นที่ยอมรับของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนแล้ว ผู้นำทั่วโลกก็ยอมรับความจริงข้อนี้ด้วย
ก็คงไม่ใช่คนโง่หรอก
ที่มา.บางกอกทูเดย์
/////////////////////////////////////////////////////////////////
เมื่อวันที่ ๙ กันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ไปกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ ๒๔ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ปกติแล้วข่าวเรื่องนี้เป็นข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง โดยหากไม่ได้ดูถึงเนื้อหาที่นายกรัฐมนตรีพูดแล้ว ก็แทบจะไม่น่าสนใจอะไรนัก แต่ที่ต้องหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงก็เป็นเพราะว่า...
คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทยไทย ที่ได้รับเกียรติจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติให้ไปกล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมอันมีความสำคัญยิ่งระหว่างประเทศองค์กรนั้น
และมันก็บังเอิญประจวบเหมาะกับการ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอ่ยคำว่า “อีโง่” ออกมาอย่างตั้งอกตั้งใจและชัดถ้อยชัดคำ เมื่อกล่าวถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการไปเป็นประธานการประกวดสมาร์ทเลดี้ จนถูกสวดชยันโตไล่ผีป่ากันทั้งบ้านเมือง
เลยต้องสนใจมาวิพากษณ์วิจารณ์กันว่า...ทำไมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติจึงเชิญคนโง่ๆ ไปกล่าวคำปราศรัย หรือว่าองค์กรระดับโลกดังกล่าวมันโง่กันถึงขนาดที่ไอคิวอยู่ในระดับแค่ ๓๕ (เท่ากับไอคิวควาย)
เพราะถ้าฉลาดแล้ว ทำไมจึงไม่เคยเชิญนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ของประเทศไทย รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปกล่าวคำปราศรัยกันบ้าง
ในคำปราศรัยต่อที่ประชุมดังกล่าวนั้น คุณยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจของประชาธิปไตย และเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องยึดหลักประชาธิปไตย ไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย รัฐบาลต้องคงไว้ซึ่งการสนับสนุนคุณค่าประชาธิปไตยด้วยการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
คำพูดของคุณยิ่งลักษณ์ มันทำให้นึกถึงการกระทำของ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหารและสั่งใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมมือเปล่าเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ อัน
เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งโลก
เหตุนี้กระมังเขาจึงไม่เคยเชิญคุณอภิสิทธิ์ไปกล่าวคำปราศรัย
เพราะมิฉะนั้นแล้วคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คงจะได้รับฟังตรรกะอันพิลึกพิลั่นเฉกเช่นเดียวกับตรรกะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนการที่รัฐบาลใช้กำลังทหารปราบปรามประชาชนของตัวเอง
เป็นที่ยอมรับกันว่า คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐหญิงที่ได้รับการยกย่องว่า “Beautiful and smart” คือ ทั้งสวยทั้งเก่ง
ทั้งนี้ ๒ ปีของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากคนที่เคยเป็นแค่นักธุรกิจและแม่บ้านที่รู้เรื่องการเมืองแบบงูๆปลาๆ คุณยิ่งลักษณ์ได้พิสูจน์ให้ถึงความสามารถในการเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
นอกจากจะเป็นที่ยอมรับของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนแล้ว ผู้นำทั่วโลกก็ยอมรับความจริงข้อนี้ด้วย
ก็คงไม่ใช่คนโง่หรอก
ที่มา.บางกอกทูเดย์
/////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น