ทั่วโลกจับตาการประชุมเฟด 17-18 ก.ย. ปิดฉากมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการประชุมเฟดที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐหลุดพ้นจากภาวะถดถอย โดยตลาดเงินตลาดทุนคาดว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี3) ในการประชุมครั้งนี้
เฟดดำเนินมาตรการคิวอี 3 ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ รวม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือนเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
แต่เป้าหมายของเฟดยังอยู่ห่างไกล โดยสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.ที่ไม่แข็งแกร่งเท่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านั้น แต่เฟดก็อาจจะปรับลดวงเงินในมาตรการคิวอี เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขว่างงานในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.3% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ 6.5%
นางดานา ซาพอร์ทา นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเครดิต สวิส กล่าวว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอีลง 1.5-2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่เมื่อพิจารณาจากความพยายามทั้งหมดที่ได้ทำไปในการเตรียมตลาดให้พร้อมรับมือสำหรับการปรับลดขนาดคิวอีในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องยากที่เฟดจะไม่ฉวยโอกาสนี้ในการลดขนาดคิวอีลงเล็กน้อยในเดือนนี้
"สหรัฐได้มาถึงจุดที่มองว่า การเข้าซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนถือเป็นการดำเนินจุดยืนแบบเป็นกลาง แต่ในความเป็นจริงนั้นการกระทำดังกล่าวถือเป็นจุดยืนแบบผ่อนคลายมาก และการเข้าซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนก็จะยังคงถือเป็นการผ่อนคลายเป็นอย่างมากเช่นกัน"
เมื่อ 3 เดือนก่อน นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดคาดว่าจะเริ่มปรับลดขนาดคิวอีลงก่อนสิ้นปีนี้ และจะยุติคิวอีทั้งหมดภายในช่วงกลางปีหน้า หากเศรษฐกิจเติบโตตามความคาดหมาย
เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายระบุอย่างชัดเจนว่าพร้อมสำหรับการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีในสัปดาห์หน้า โดยนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดควรปรับลดขนาดคิวอีลง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอี ลง 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า โดยลดลงจากระดับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนส.ค.
เฟดเริ่มต้นดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (คิวอี3) เมื่อ 1 ปีก่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการลงทุน, การจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อัตราการ ว่างงานก็ลดลงจาก 8.1 % สู่ 7.3 % ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5 % ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินคาด
การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐเติบโตขึ้นเฉลี่ย 184,000 ตำแหน่งต่อเดือนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ชะลอการขยายตัวในเดือนส.ค. และส่งผลให้นักลงทุนบางรายเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับการปรับลดขนาดคิวอี3 นอกจากนี้ อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานยังลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2521 ด้วย โดยอัตราการมีส่วนร่วมนี้วัดจากจำนวนประชากรวัยทำงานในสหรัฐที่มีงานทำหรือกำลังหางานทำ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรวัยทำงานทั้งหมดในสหรัฐ
ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.อยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอีในสัปดาห์หน้า แทนที่จะรอจนถึงการประชุมในวันที่ 29-30 ต.ค. หรือวันที่ 17-18 ธ.ค.
นายริชาร์ด กิลฮูลี จากบล.ทีดีกล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. ไม่มีแนวโน้มที่จะสกัดกั้นการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีในเดือนก.ย. โดยตัวเลขการจ้างงานอาจจะส่งผลให้เฟดปรับลดคิวอีในระดับที่น้อยลง หรืออาจจะออกแถลงการณ์ที่เน้นย้ำแนวโน้มแบบสายพิราบมากยิ่งขึ้น"
เมื่อพิจารณาจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในปีนี้ เฟดก็อาจจะลดความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการคุมเข้มนโยบายการเงิน ด้วยการเน้นย้ำภาระผูกพันในการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0 % จนกว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 6.5 %
นายเบอร์นันเก้อาจจะกล่าวย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนในขณะที่ปรับลดขนาดคิวอี 3 ลงในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า
ตลาดการเงินทั่วโลกเคยประสบภาวะปั่นป่วนเมื่อนายเบอร์นันเก้ กล่าวในเดือนพ.ค.ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดขนาดคิวอี3 ลง โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ในอินเดียและประเทศกำลังพัฒนาแห่งอื่นๆ หลังจากประเทศกลุ่มนี้เคยมีเงินลงทุนไหลเข้าเป็นจำนวนมากในช่วงที่เฟดดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลังจากนั้น แต่ตลาดเกิดใหม่อาจถูกกดดันอีกครั้งเมื่อเฟดปรับลดขนาดคิวอี3 ลง โดยนายเยอร์ก อาสมุนเซน สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวเตือนว่าการยุติคิวอีของเฟดอาจส่งผลกระทบในปัจจุบันในระดับที่รุนแรงกว่าในปี 2537 ซึ่งเป็นปีที่การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดเคยสร้างความเสียหายต่อตลาดเกิดใหม่
เจ้าหน้าที่เฟดอาจจะพยายามลดทอนผลกระทบที่เกิดจากการปรับลดขนาด คิวอี ด้วยการระบุย้ำว่า การเข้าซื้อตราสารหนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายเดือนในปีหน้า และเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเร็วๆนี้
เฟดจะปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ในการประชุมเดือนนี้ด้วยและนายเบอร์นันเก้จะจัดการแถลงข่าวหลังการประชุมเพื่อกล่าวถึงการตัดสินใจ
ด้านนโยบายการเงิน ประธานาธิบดีบารัค โอบามามีแนวโน้มที่จะเสนอชื่อผู้ที่จะได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนายเบอร์นันเก้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และปัจจัยนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อคำสัญญาด้านนโยบายในระยะยาวของเฟด
วาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของนายเบอร์นันเก้จะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนม.ค. 2557 และตลาดคาดว่าทำเนียบขาวจะเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยอาจจะเสนอชื่อ นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรมว.คลังสหรัฐ หรือนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด
การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับนายเบอร์นันเก้ในการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอี3 ลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการปรับลดขนาดคิวอี3 จะเปิดโอกาสให้นายเบอร์นันเก้ สามารถเริ่มต้นกระบวนการที่ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากเขาสามารถสานต่อหรือเร่งรัดให้เร็วขึ้นได้ในอนาคต
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการประชุมเฟดที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐหลุดพ้นจากภาวะถดถอย โดยตลาดเงินตลาดทุนคาดว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี3) ในการประชุมครั้งนี้
เฟดดำเนินมาตรการคิวอี 3 ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ รวม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือนเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
แต่เป้าหมายของเฟดยังอยู่ห่างไกล โดยสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.ที่ไม่แข็งแกร่งเท่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านั้น แต่เฟดก็อาจจะปรับลดวงเงินในมาตรการคิวอี เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขว่างงานในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.3% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ 6.5%
นางดานา ซาพอร์ทา นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเครดิต สวิส กล่าวว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอีลง 1.5-2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่เมื่อพิจารณาจากความพยายามทั้งหมดที่ได้ทำไปในการเตรียมตลาดให้พร้อมรับมือสำหรับการปรับลดขนาดคิวอีในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องยากที่เฟดจะไม่ฉวยโอกาสนี้ในการลดขนาดคิวอีลงเล็กน้อยในเดือนนี้
"สหรัฐได้มาถึงจุดที่มองว่า การเข้าซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนถือเป็นการดำเนินจุดยืนแบบเป็นกลาง แต่ในความเป็นจริงนั้นการกระทำดังกล่าวถือเป็นจุดยืนแบบผ่อนคลายมาก และการเข้าซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนก็จะยังคงถือเป็นการผ่อนคลายเป็นอย่างมากเช่นกัน"
เมื่อ 3 เดือนก่อน นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดคาดว่าจะเริ่มปรับลดขนาดคิวอีลงก่อนสิ้นปีนี้ และจะยุติคิวอีทั้งหมดภายในช่วงกลางปีหน้า หากเศรษฐกิจเติบโตตามความคาดหมาย
เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายระบุอย่างชัดเจนว่าพร้อมสำหรับการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีในสัปดาห์หน้า โดยนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดควรปรับลดขนาดคิวอีลง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอี ลง 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า โดยลดลงจากระดับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนส.ค.
เฟดเริ่มต้นดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (คิวอี3) เมื่อ 1 ปีก่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการลงทุน, การจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อัตราการ ว่างงานก็ลดลงจาก 8.1 % สู่ 7.3 % ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5 % ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินคาด
การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐเติบโตขึ้นเฉลี่ย 184,000 ตำแหน่งต่อเดือนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ชะลอการขยายตัวในเดือนส.ค. และส่งผลให้นักลงทุนบางรายเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับการปรับลดขนาดคิวอี3 นอกจากนี้ อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานยังลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2521 ด้วย โดยอัตราการมีส่วนร่วมนี้วัดจากจำนวนประชากรวัยทำงานในสหรัฐที่มีงานทำหรือกำลังหางานทำ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรวัยทำงานทั้งหมดในสหรัฐ
ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.อยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอีในสัปดาห์หน้า แทนที่จะรอจนถึงการประชุมในวันที่ 29-30 ต.ค. หรือวันที่ 17-18 ธ.ค.
นายริชาร์ด กิลฮูลี จากบล.ทีดีกล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. ไม่มีแนวโน้มที่จะสกัดกั้นการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีในเดือนก.ย. โดยตัวเลขการจ้างงานอาจจะส่งผลให้เฟดปรับลดคิวอีในระดับที่น้อยลง หรืออาจจะออกแถลงการณ์ที่เน้นย้ำแนวโน้มแบบสายพิราบมากยิ่งขึ้น"
เมื่อพิจารณาจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในปีนี้ เฟดก็อาจจะลดความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการคุมเข้มนโยบายการเงิน ด้วยการเน้นย้ำภาระผูกพันในการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0 % จนกว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 6.5 %
นายเบอร์นันเก้อาจจะกล่าวย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนในขณะที่ปรับลดขนาดคิวอี 3 ลงในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า
ตลาดการเงินทั่วโลกเคยประสบภาวะปั่นป่วนเมื่อนายเบอร์นันเก้ กล่าวในเดือนพ.ค.ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดขนาดคิวอี3 ลง โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ในอินเดียและประเทศกำลังพัฒนาแห่งอื่นๆ หลังจากประเทศกลุ่มนี้เคยมีเงินลงทุนไหลเข้าเป็นจำนวนมากในช่วงที่เฟดดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลังจากนั้น แต่ตลาดเกิดใหม่อาจถูกกดดันอีกครั้งเมื่อเฟดปรับลดขนาดคิวอี3 ลง โดยนายเยอร์ก อาสมุนเซน สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวเตือนว่าการยุติคิวอีของเฟดอาจส่งผลกระทบในปัจจุบันในระดับที่รุนแรงกว่าในปี 2537 ซึ่งเป็นปีที่การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดเคยสร้างความเสียหายต่อตลาดเกิดใหม่
เจ้าหน้าที่เฟดอาจจะพยายามลดทอนผลกระทบที่เกิดจากการปรับลดขนาด คิวอี ด้วยการระบุย้ำว่า การเข้าซื้อตราสารหนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายเดือนในปีหน้า และเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเร็วๆนี้
เฟดจะปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ในการประชุมเดือนนี้ด้วยและนายเบอร์นันเก้จะจัดการแถลงข่าวหลังการประชุมเพื่อกล่าวถึงการตัดสินใจ
ด้านนโยบายการเงิน ประธานาธิบดีบารัค โอบามามีแนวโน้มที่จะเสนอชื่อผู้ที่จะได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนายเบอร์นันเก้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และปัจจัยนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อคำสัญญาด้านนโยบายในระยะยาวของเฟด
วาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของนายเบอร์นันเก้จะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนม.ค. 2557 และตลาดคาดว่าทำเนียบขาวจะเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยอาจจะเสนอชื่อ นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรมว.คลังสหรัฐ หรือนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด
การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับนายเบอร์นันเก้ในการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอี3 ลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการปรับลดขนาดคิวอี3 จะเปิดโอกาสให้นายเบอร์นันเก้ สามารถเริ่มต้นกระบวนการที่ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากเขาสามารถสานต่อหรือเร่งรัดให้เร็วขึ้นได้ในอนาคต
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น