--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ลูกเศรษฐี-หลานอำมาตย์ ติดกับดักพันธมิตรฯ-ติดคุกเขมร

ทั้งกองทัพ-รัฐบาลยังมีความพยายามช่วย 7 คนไทย พ้นคุกกัมพูชา

ต่างจากท่าทีของฝ่าย "พันธมิตรฯ" ที่ต่าง "แสดง" บทบาทราวกับไม่เคยเป็นพันธมิตรฯกันมาก่อน

โฆษกฝ่ายพันธมิตรฯแสดงบทหลักในทำนองไม่เกี่ยวข้อง-คนละขบวนกับ นายวีระ สมความคิด นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ และนายการุณ ใสงาม

ทั้ง ๆ ที่ "ภาพและเสียง" ของอดีตพันธมิตรฯ ทั้งนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รวมทั้ง ร.ท.แซมดิน เลิศบุศย์ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เคยเล่นบทออกเสียงคีย์เดียวกัน แสดงท่าทีเดียวกันในการ "ขับไล่ทักษิณและพวก"

ทั้งเครือข่ายพันธมิตรฯ ต่างเคยร่วมกันต่อต้านรัฐบาลสมเด็จฮุนเซนแห่งกัมพูชา

ภาพความเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือ คนในพรรคประชาธิปัตย์กับคนในพันธมิตรฯ จึงเป็นภาพเฉพาะ ที่แสดงออกจาก พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะเพื่อนสนิทเท่านั้น

ต่างไปจากท่าทีของแกนนำพันธมิตรฯ ที่ค่อนข้างวางเฉยและตัดรอน

นายปานเทพ ในฐานะโฆษกพันธมิตรฯ ได้ยืนยันว่า การประสานงานจากนายพนิช เพื่อไปชายแดนนั้น อาจไม่ปลอดภัย จึงได้ปฏิเสธที่จะร่วมทาง

"ทราบภายหลังว่า ได้ประสานงานไปยังนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งผมยอมรับว่า ทั้งสองกลุ่มมีแนวคิดเรื่องการรักษาดินแดนเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวกับเครือข่ายนี้มาตั้งแต่ต้น" ตัวแทนพันธมิตรฯ-ตัวแทนบ้านพระอาทิตย์ เผยท่าที

เช่นเดียวกับท่าทีของผู้จัดการรัฐบาล- สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ค่อนข้างนิ่งและ รอจังหวะทางการเมือง

"ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ของเรามัน ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวไม่ดี และก็มีเหตุทางการเมืองเข้ามาแทรก พอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าไปอยู่ในกัมพูชา ก็เกิดความแข็งกร้าว มีปัญหากับเราไปพักหนึ่ง ตอนนี้ก็เริ่มผ่อนคลายลงและทำท่าจะดีอยู่แล้ว แต่ก็มีคนเข้าไปทำให้เกิดเหตุอีก เราก็ต้องระมัด ระวัง" นายสุเทพกล่าว

แม้นายกรัฐมนตรีจะพยายามแสดงท่าทีจากเมืองไทย ส่งสัญญาณไปถึงท่าที ในเวทีการเมืองโลก ในทำนองประนีประนอมว่า "พนิชและพวก" ยังไม่ได้รุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา และเป็นการเดินทางไปสังเกตการณ์แนวรบชายแดนเท่านั้น

ส่วนการทูตขั้นเทพของฝ่ายกัมพูชา ได้หยิบยกหลักฐาน "ภาพและเสียง" จากคลิปวิดีโอ ที่ถ่ายไว้โดย "เครือข่ายพันธมิตร" นั้น นายกรัฐมนตรียังเห็นว่ามีโอกาสและแนวทางในการต่อสู้ เพราะภาพและเสียงฉบับจริง ไม่ตัดต่อบนพื้นที่กรณีพิพาทสามารถโต้แย้งได้

เช่นเดียวกับ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกรัฐบาล ที่เห็นว่ายังมีทางต่อสู้ในชั้นศาลของกัมพูชา เพราะ "หากมีการล้ำแดนเกิดขึ้นเล็กน้อย ระดับผู้นำประเทศได้คุยกันแล้วว่าจะใช้วิธีแบบยืดหยุ่น ไม่ส่งตัวเข้ากระบวนการยุติธรรม แต่ในกรณีนี้ทางกัมพูชาคงเห็นว่ามีบุคคลบางคนเคยเข้าไปในพื้นที่นั้นก่อนแล้ว จึงไม่ยอมปล่อยตัว"

ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนทางการทูตไทย-กัมพูชา

ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ "ทับซ้อน" ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ

ที่สุดแล้ว หาก "พนิช" ได้รับอิสระกลับมาเมืองไทย สิ่ง "หลานอำมาตย์" อย่างเขาต้องได้รับ คือบทเรียนในสนามการเมือง ที่เลือดเย็นจากพรรคประชาธิปัตย์ และ บทเรียนครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อครั้งเขาเป็น "นักการเงิน"

เครือข่าย-ต้นสายของตระกูล "พนิช" นั้นไม่ธรรมดา เขาคือลูกพ่อค้าที่คบหาใกล้ชิดกับอำมาตย์ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

"คุณแม่ผมเป็น "จักรพันธุ์" เป็น หม่อมหลวงสมพงษ์วดี (จักรพันธุ์) วิกิตเศรษฐ์ บุตรสาวของ ม.ร.ว.พงษ์พรหม จักรพันธุ์-เสด็จชวด เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี พระอนุชาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สายตรงจากรัชกาลที่ 5"

"ทางคุณแม่ผมเป็นอำมาตย์โดยกำเนิด แต่ผมก็ไม่คิดว่าท่านเป็นอำมาตย์โดยกำเนิด ผมคิดว่าท่านก็เกิดมาในสายราชวงศ์ คุณตาเป็นหม่อมราชวงศ์คุณแม่ผมเป็นหม่อมหลวงสายจักรพันธุ์ ก็ไม่ได้รวย"

"ส่วนสายคุณพ่อผมนั้น คุณปู่ผมเป็นพ่อค้าจีน หอบเสื่อผืนหมอนใบมาจาก ซัวเถา มาโดยไม่มีอะไร เพราะฉะนั้น ถ้าพูดแล้ว เขาเป็นอำมาตย์ หรือเขา เป็นไพร่ เขามาถึง เขาทำงาน ขายข้าว มีโรงสี เมื่อ 100 ปีที่แล้ว มาโดยไม่มีอะไรมาก่อน ทำงานขายข้าวจนมีที่ดิน ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก สามารถทำให้ ลูกหลานอยู่ได้สบาย มีฐานะ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง"

ด้วยสถานภาพความเป็น ส.ส.และฐานะทางสังคม "พนิช" อาจพ้นคุกกัมพูชา แต่เขาไม่อาจพ้นบทลงโทษทางสังคมในแผ่นดินเกิด

เพราะมีนักการเมืองในประชาธิปัตย์หลายคนรออ่านคำพิพากษาส่วนบุคคล ให้ "พนิช" พ้นจากตำแหน่งคนสำคัญตลอดสมัย

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น