นายสราวุฒิ แซ่เตี๋ยว นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 2554 คาดว่าจะมีแนวโน้มดีกว่าปี 2553 นอกจากกิจกรรมและงานเทศกาลสำคัญในห้วงเวลาต่างๆตั้งแต่ต้นปี เช่นงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติ งานไม้ดอกไม้ประดับในเดือนกุมภาพันธ์ ประเพณีสงกรานต์ ในเดือนเมษายน งานเทศกาลอาหารนานาชาติ หรือ อินเตอร์เนชั่นแนลฟู้ด เฟสติวัล ในเดือนกรากฎาคม ส่วนช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน จะมีการจัดกิจกรรมเชียงใหม่ แกรนด์เซล และงานประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ในเดือนพฤศจิกายน ฯลฯ ช่วยเสริมให้บรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคัก
สมาคมฯคาดหวังว่าในปี 2554 จ.เชียงใหม่จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากฐานรายได้ในปี 2553 ที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาการท่องเที่ยวเคยสร้างรายได้เข้าสู่จ.เชียงใหม่ถึง 4 หมื่นล้านบาทมาแล้ว แต่หลายปีที่ผ่านมารายได้ปรับตัวลดลงเพราะผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่เกิดขึ้น แต่สมาคมฯมั่นใจว่าในอนาคตจ.เชียงใหม่จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท
เนื่องจากในปี 2554 สมาคมฯจะเน้นทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเปลี่ยนฤดูโลว์ซีซั่น ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ให้เป็นกรีนซีซั่น กิจกรรมหลักที่สมาคมฯเตรียมผลักดัน คือ งานเชียงใหม่ แกรนด์เซล ที่เป็นไฮไลท์สำคัญ นอกจากร่วมกับผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ โรงแรม สปา รถเช่า ฯลฯ จัดโปรโมชั่นลดราคา พุ่งเป้าไปที่ตลาดตะวันออกกลาง ในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งตลาดคนไทยตามนโยบายไทยเที่ยวไทย ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อดึงตลาดคนไทยชดเชยตลาดต่างชาติในช่วงที่เกิดวิกฤติหรือปัญหา เพราะในปี 2554 ประเมินว่าเศรษฐกิจของยุโรป และอเมริกา ยังมีปัญหาอาจทำให้นักท่องเที่ยว 2 กลุ่มนี้มีจำนวนลดลง แต่สมาคมฯยังไม่ทิ้งตลาดยุโรปและอเมริกาที่เป็นตลาดสำคัญเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อและมีการใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่น
ส่วนในเดือนกรกฎาคม สมาคมฯเตรียมจัดงานเชียงใหม่ทัวร์ริซึ่ม ฟอรั่ม เชิญบายเออร์จากทั่วโลกมาร่วมงานเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจ.เชียงใหม่และ 8 จังหวัดภาคเหนือให้เป็นที่รู้จัก และ ซึ่งสมาคมฯมีแผนรวมเป็นกลุ่มจังหวัดเพื่อผลักดันและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวรวมกัน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และการผจญภัย ที่เป็นตลาดสำคัญอีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากการท่องเที่ยวเชิงประเพณี -วัฒนธรรม
" ปี 2554 ยังถือเป็นปีสำคัญในการเตรียมตัวสำหรับปี 2555 ซึ่งโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจะแล้วเสร็จ เป็นปีที่ต้องเตรียมวางแผนทำตลาดล่วงหน้า รับการประชุมสัมมนา หรือ ตลาดไมซ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลายรายเริ่มปรับตัวกันแล้ว มีการลงทุนสร้างหรือขยายห้องประชุมสัมมนาที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ไม่ต่ำกว่า 500 - 1,000 คน"นายสราวุฒิกล่าว
นายสราวุฒิ กล่าวอีกว่า สมาคมฯยังมีแผนดึงสายการบินทั้งในและต่างประเทศเปิดไฟล์บินตรงมายังจ.เชียงใหม่ รวมทั้งการดึงเที่ยวบินเช่าเมหาลำ หรือชาเตอร์ไฟล์ เข้ามา เพราะเมื่อเปรียบเทียบจ.เชียงใหม่กับจ.ภูเก็ต ยังเสียเปรียบมากเพาะจำนวนเที่ยวบินจากต่างประเทศเข้าสู่จ.เชียงใหม่มีน้อยกว่า ขณะที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีการพัฒนาและปรับปรุงให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่จากต่างประเทศได้แล้ว โดยสมาคมฯจะเดินสายหารือกับสายการบินต่างๆ ทั้งจีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฯลฯ ให้ขยายเส้นทางบินมายังจ.เชียงใหม่
ที่มา.เนชั่น
----------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น