ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในอียิปต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนเกินระดับ 100 รายแล้ว หลังจากที่เจอกับกระแสการต่อต้านจากประชาชนอย่างหนักในกรุงไคโร ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัค ของอียิปต์ แต่งตั้งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเป็นรองประธานาธิบดีครั้งแรกเมื่อวาน
หลายฝ่ายมองว่าเรื่องนี้เป็นสัญญาณของการแต่งตั้งทายาททางการเมือง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมและถูกปราบปรามพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยในการประท้วงนาน 5 วัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 102 ราย โดยเฉพาะเมื่อวานนี้วันเดียวมีผู้เสียชีวิต 33 ราย
สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่อวาน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในช่วงเกือบ 30 ปีที่มูบารัคอยู่ในอำนาจ
เมื่อวานเมืองหลวงตกอยู่ในความระส่ำสะสายอย่างหนัก เจ้าของบ้านและธุรกิจร้านค้าในย่านคนมีอันจะกิน ต้องป้องกันตนเองกันอย่างเต็มที่จากพวกที่จะบุกมาปล้นทรัพย์สิน โดยคนเหล่านี้ ที่มีมีดและอื่นๆเป็นอาวุธ พากันเดินไปตามท้องถนน และหยิบฉวยทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ นอกจากนั้นก็ยังทำลายรถยนต์ ป้าย และหน้าต่าง ขณะที่มีเหตุเพลิงไหม้ในบางเขต
รถถังและรถหุ้มเกราะกระจายกำลังกันตามจุดต่างๆทั่วเมืองที่ประชากร 18 ล้านคนเพื่อให้การคุ้มครองอาคารที่ทำการของรัฐบาลสำคัญๆ สถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญทางโบราณคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิพิธภัณฑ์อียิปต์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บสิ่งของเก่าแก่ล้ำค่าสำคัญของประเทศ และทำเนียบรัฐบาล
แต่ทหารไม่ได้ดำเนินการปราบปรามประชาชนในเมืองหลวงอีกต่อไป แม้กระทั่งหลังจากที่เข้าสู่ช่วงเคอร์ฟิวก็ตาม เมื่อประชาชนต่างก็พากันละเมิดคำสั่งเคอร์ฟิวเป็นวันที่ 2 เพื่อแสดงการปฏิเสธแผนของมูบารัคที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป ด้วยการเสนอให้มีการปฏิรูปการเมืองและให้มีรัฐบาลใหม่ ขณะที่การแต่งตั้งนายโอมาร์ สุไลมาน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของประธานาธิบดี และคนสนิทของมูบารัค เป็นรองประธานาธิบดี ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ประท้วงพอใจเช่นกัน
การปราบปรามการชุมนุมประท้วง ทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐออกมาวิจารณ์ทางการอียิปต์อย่างหนัก รวมทั้งขู่ที่จะตัดลดความช่วยเหลือมูลค่า 1 พัน 500 ล้านลงด้วย ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมาก ต้องตกค้างอยู่ที่สนามบินกรุงไคโร จากการที่เที่ยวบินมากมายเลื่อนหรือไม่ก็ยกเลิก ขณะที่ชาติอาหรับหลายประเทศ ก็เริ่มอพยพประชาชนของตนเองกลับประเทศ
ที่มา.เนชั่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น