--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ม็อบไล่รัฐบาลจุดเริ่มต้นของจุดจบ !!?



ไม่เยอะแต่ก็ประมาทไม่ได้

การชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามและเครือข่าย เพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายใต้สโลแกน “รวมพลคนทนไม่ไหว” แม้จะมีคนเข้าร่วมไม่มาก แต่ก็ไม่อยู่ในสถานะที่รัฐบาลจะประมาทได้
ขนาดระดับแกนนำต่อต้านเครือข่ายทักษิณ แถวสองแถวสามนัดชุมนุมยังมีคนออกมาร่วมระดับหนึ่ง
หากเป็นแกนนำต่อต้านแถวหนึ่งเป่านกหวีดชุมนุม ก็หลับตานึกภาพออกว่าจะมีคนเข้าร่วมมากกว่าหลายเท่า

แสดงให้เห็นชัดว่าเชื้อยังมี โหมเมื่อไรก็จุดติด เพียงแต่จะกล้าหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาต่างมีคดีความติดตัวยาวเป็นหางว่าว

ที่สำคัญคดีความเดินมาถึงจุดใกล้ส่งขึ้นศาล หากเคลื่อนไหวอะไรตอนนี้ก็เสี่ยง
ทั้งเสี่ยงถูกมองว่าเคลื่อนไหวเพื่อต่อรองทางคดี เคลื่อนไหวเพื่อให้อำนาจพิเศษสั่งล้มคดี
ที่สุดเลยคือเสี่ยงถูกเอาตัวไปกักขังในเรือนจำไม่ให้ประกันตัวฐานประพฤติตนเป็นตัวป่วนสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง

แต่อะไรก็ไม่แน่นอน

หากเห็นว่าสถานการณ์สุกงอมมากพอที่จะปั่นสถานการณ์เพื่อสร้างความชอบธรรมเพื่อให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงได้ ก็อาจเสี่ยงลุกขึ้นมาทำสงครามครั้งสุดท้ายกันอีกครั้ง

ยิ่งในสภาวะคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และนายกฯยิ่งลักษณ์มองหน้ากันไม่สนิทแนบแน่นเหมือนเคย
นักรบแถวหน้าไม่ได้เหรียญกล้าหาญ ไม่ได้รับการเชิดชูเกียรติ ไม่ได้บำเหน็จศึก เครือข่ายทักษิณจึงอยู่ในสภาวะอ่อนแอที่จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้

กางชื่อคนนำชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่เปิดหน้าเล่นตอนนี้ก็ล้วนเป็นพวกขาเก่าเจ้าประจำที่ถูกส่งออกมาชิมลางหยั่งกระแส

ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย พล.อ.จำลอง บุญกระพือ พล.อ.ณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ นายสมพจน์ ปิยะอุย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์
ล้วนแต่แตกเหล่าแยกกอมาจากคนเสื้อเหลือง เสื้อหลากสี

เสธ.อ้ายยังเป็นประธานเตรียมทหารรุ่น 1 มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นเพื่อนร่วมรุ่น รวมถึงให้ความเคารพรัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

เมื่อลากโยงความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ทีละขั้ว ทีละกลุ่ม ก็พอต่อจิ๊กซอร์มองเห็นภาพกันได้ว่า ลิเกคณะเดิมกลับมาแสดง เพียงแต่คราวนี้เลือกส่งพระรองออกมาก่อน

เป็นคณะที่เคยขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กระเด็นตกอำนาจมาแล้ว จึงถือว่าไม่ธรรมดา ประมาทไม่ได้

เสธ.อ้ายประกาศชัดว่า หลังเบิกร่องชุมนุมนัดแรกไปแล้ว ภายใน 1 เดือนจะกลับมาใหม่
ชัดเจนว่าการจัดชุมนุมครั้งแรกนี้เป็นแค่การเผาหัว เรียกความรู้สึก เรียกบรรยากาศเก่าๆของฝ่ายต้านเครือข่ายทักษิณให้ตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง

อีก 1 เดือนจะกลับมาชุมนุมใหม่ หมายความว่าการชุมนุมจะเกิดขึ้นหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์

หากพรรคประชาธิปัตย์ทำงานได้ตามเป้า การชุมนุมครั้งต่อไปเกรงว่าสนามม้านางเลิ้งที่จุคนได้ 25,000 คน จะไม่เพียงพอรองรับมวลชน

ถ้าขยายการชุมนุมออกมานอกสถานที่ได้ แสดงว่ามีคนมาร่วมมากขึ้น เมื่อมีคนมาร่วมมากขึ้น พวกที่แอบลุ้น แอบเชียร์ ก็คงได้เวลาเปิดหน้าเล่น

ที่เคยแอบอยู่ตามเสา ตามมุม ก็จะโผล่หน้าออกมาเดินปะปนอยู่กับม็อบ และขึ้นเวทีเรียกแขกในที่สุด
หากม็อบจุดติด แน่นอนว่าเสียงปฏิวัติย่อมดังกระหึ่ม

อย่าหวังว่าทหารจะถือปืนออกมาปราบปรามประชาชนเหมือนรัฐบาลที่แล้ว

แต่จะเป็นการออกมาหันกระบอกปืนจี้ให้รัฐบาลลงจากอำนาจ

ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น