2 ขุนคลังแสดงสปิริตชื่นชมผลงานฝ่ายตรงกันข้าม "กิตติรัตน์"มอง"กรณ์"มีโอกาสเป็นนายกฯ ขณะที่"กรณ์"ชม"กิตติรัตน์"มีความมุ่งมั่น ผ่านเวทีดีเบต
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวแสดงความชื่นชมต่อนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในเวทีดีเบตหัวข้อ "อนาคตประเทศไทย"ว่า ตนได้มีโอกาสพบกับนายกรณ์ตอนที่เข้าสู่ธุรกิจตลาดทุน ซึ่งเห็นว่า คุณกรณ์ เป็นผู้ที่มีความสามารถสูงที่สุดในตลาดทุนเท่าที่เคยพบมา และความตั้งใจสร้างกิจการ โดยตั้งแต่เริ่มกิจการได้รวบรวมคนไม่กี่คน และ สร้างกิจการจนกลายเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุด การที่เขาสามารถทำในสิ่งเหล่านี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีความสามารถและมีศิลปะการบริหารทำงานสูง
"คุณกรณ์เป็นบุคคลสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี ขอเรียนว่า คุณกรณ์อยู่ในหน้าที่ไหนก็มีความสามารถ จำได้ว่า แม้เราอยู่ต่างขั้วการเมือง ก็มีโอกาสสอบถามความเห็นกัน ในมุมของผู้ที่สนใจรับฟังหรือรับฟังข้อมูล สะท้อนว่า คุณกรณ์เป็นบุคคลที่มีความตั้งใจสูง"เขากล่าว
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ตนเองมีศรัทธาในประเทศนี้ มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ในกลไกของคณะรัฐมนตรี ถ้ากฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ผ่านการพิจารณา ถ้าหากมีการเลือกตั้งใหม่แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ท่านจะมีเครื่องมือสำคัญในการบริหารโครงการเหล่านี้ให้สำเร็จ และมีศรัทธาว่า ถ้ารัฐบาลใดเข้ามา ก็จะบริหารเศรษฐกิจเพื่อประเทศ
"กรณ์"ชม"กิตติรัตน์"มีความมุ่งมั่น
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชื่นชมนายกิตติรัตน์ว่า นายกิตติรัตน์เป็นบุคคลที่มีความแตกต่างกับบุคคลอื่น คือ เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น โดยตนและนายกิตติรัตน์ได้รู้จักกันมานานถึง 20 ปี และก็ไม่เคยคิดว่า จะอยู่ต่างขั้วการเมืองกัน ในอดีตเราอยู่ในบริษัทที่เป็นคู่แข่ง แต่ก็ได้เห็นความมุ่งมั่น ซึ่งท่านก็มีมิติในเรื่องการช่วยเหลือสังคม ยกตัวอย่าง สมัยที่ท่านเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมในบริเวณพื้นที่รอบตลาดหลักทรัพย์ และ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์
"ต้องสารภาพว่า ในวันที่ท่านรับตำแหน่งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ผมก็นั่งทบทวนว่า บทบาทของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์นั้น มีอะไรที่ทำได้บ้าง ซึ่งท่านก็ทำหลายอย่างที่ผมคิดไม่ถึง ซึ่งเป็นบทบาทที่สร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์ รวมถึง ความสนใจในสังคมและผู้ด้อยโอกาส ซึ่งท่านก็ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการตอบโจทก์"
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น