นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับมติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องการให้ทุกส่วนราชการพิจารณาปรับปรุงระบบงานและทบทวนบทบาทภารกิจให้มีความเหมาะสม เพื่อให้ภาคราชการเป็นองค์กรขนาดเหมาะสมที่มีศักยภาพการทำงานและเพิ่มคุณภาพการให้บริการกับประชาชน
ประกอบกับรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้ “เกษตรกรไทยเป็น Smart Famer โดยมี Smart Officer เป็นเพื่อนคู่คิด” มีการพัฒนามาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตร การเพิ่มศักยภาพด่านสินค้าเกษตรชายแดน มีนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์เครื่องจักรกลการเกษตร เป็นเมืองเกษตรสีเขียว รวมถึงให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช การบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญ ตลอดจนการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน เพื่อตอบสนองนโยบายประเทศและสร้างประโยชน์โดยตรงให้กับเกษตรกร โดยการบูรณาการการทำงานและพัฒนาทั้งในเชิงพื้นที่ การจัดการรายสินค้าและบุคคลากรและเจ้าหน้าที่รัฐ
นายชวลิต กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ดำเนินการปรับปรุงระบบการทำงานและจัดโครงสร้างหน่วยงานภายใต้แผนยุทธศสตร์การพัฒนาหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2554-2556 ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) โดยวิเคราะห์ความเชื่อมโยงทั้งด้านกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่รัฐธรรมนูญจนถึงกฎหมายด้านการเกษตร ความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ระดับต่างๆ เพื่อทบทวนการทำงานของกระทรวง และนำไปวิเคราะห์การปรับปรุงบทบาทภารกิจต่างๆ ให้เหมาะสม โดยได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกระทรวงใน 2 ประเด็น คือ การพัฒนากระบวนการและรูปแบบการทำงานและการพัฒนาโครงสร้างและปรับปรุงบทบาทภารกิจของส่วนราชการ ซึ่งในการจัดทำแผนดังกล่าวได้ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งเกษตรกร ภาคเอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนรับรู้และเสนอความคิดเห็นได้โดยอิสระ ซึ่งเน้นให้มีการเตรียมโครงสร้างองค์กรในทุกส่วนราชการ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านมาตรฐาน ด้านต่างประเทศและด้านภูมิภาค
ทั้งนี้ ในส่วนด้านมาตรฐานได้กำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการให้บริการเกษตรกรและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าเกษตร การตรวจสอบสินค้าเกษตรทั้งการส่งออกและนำเข้า เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัย ต่อผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ ส่วนด้านต่างประเทศนอกจากมีหน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจต่างประเทศที่ชัดเจนแล้ว ได้เตรียมการจัดตั้งกองเกษตรอาเซียนเป็นหน่วยงานภายในสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะทำหน้าที่จัดทำนโยบายในภาพรวม เป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการภารกิจด้านต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน เป็นการเฉพาะ ทั้งงานมาตรฐานสินค้า การเจรจาการค้า และความร่วมมือทางวิชาการ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการเกษตรเกี่ยวกับอาเซียนทั้งหมด สำหรับในส่วนภูมิภาคได้กำหนดหน่วยงานให้บริการในระดับพื้นที่ เพื่อให้บริการทางด้านการเกษตรกับเกษตรกรได้อย่างทั่วถึง ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านการเกษตร การส่งเสริม และสนับสนุนการทำการเกษตร ตลอดจนแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเน้นการทำงานในเชิงรุกซึ่งจะทำให้การจัดการโรคพืชและโรคสัตว์ในระดับพื้นที่ดำเนินการได้ทันต่อสถานการณ์และสามารถป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่พื้นที่อื่นๆ รวมทั้งสามารถช่วยเหลือเกษตรกรจากกรณีภัยพิบัติด้านต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเกษตรกรในการทำฝน เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่เกษตรกรรม เขื่อนหรือพื้นที่เก็บกักน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและภัยธรรมชาติอื่นๆ โดยจัดตั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อให้สามารถบริหารจัดการการปฏิบัติการฝนหลวงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การเตรียมปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการดังกล่าว จะทำให้กระทรวงมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนงานพัฒนาการเกษตรของประเทศได้อย่างคล่องตัวและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ประชาชนและประเทสชาติยิ่งขึ้น
ที่มา.นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
//////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น