นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ในการอธิบายชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรณีที่กัมพูชาขอให้ศาลตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 เปิดเผยกับคณะสื่อมวลชนไทยว่า สิ่งที่กัมพูชาพูดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา มีเรื่องใหม่น้อย ส่วนใหญ่อยู่ในข้อเขียน สิ่งที่ใหม่คือ เรื่องแผนที่ ที่นอกเหนือจากแผนที่ภาคผนวกหนึ่ง ซึ่งเป็นผนวกคำฟ้องเมื่อปี 2505 แต่ไม่ใช่ผนวกคำพิพากษา โดยเขายึดแผนที่อันเดียวมาตลอด แต่เมื่อวานเขาบอกว่ามีแผนที่อื่นๆ ซึ่งในการพิจารณาคดีเก่า มีการนำแผนที่มาใช้อ้างอิง 60 ฉบับ ซึ่งศาลได้นำมาผลิตแนบเข้ามาในประมวลคดี 6 ฉบับ ซึ่งแผนที่อื่นๆ กัมพูชาไม่ได้มีท่าทีออกมาชัดเจนในข้อเขียน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 เม.ย.
นายวีรชัย กล่าวด้วยว่า อันหนึ่งที่เป็นของใหม่ คือเรื่องข้อเท็จจริงหลังคำพิพากษา คือพฤติกรรมของคู่คดีจาก 2505 ถึงปัจจุบัน ช่วงต้นกัมพูชาเสนอหลักฐานเพียงนิดหน่อยในช่วงข้อเขียน แต่เมื่อวานได้ออกมาแสดงท่าที ซึ่งมีเพียง 2 ประเด็นที่เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเราก็ได้ศึกษาและเตรียมการที่จะโต้ตอบเขา และคิดว่าพอจะโต้ตอบได้
ระหว่างพักกลางวันเมื่อวาน เราอยู่ในห้องฝ่ายถูกฟ้อง ได้นั่งไล่ทีละประเด็นที่คิดว่าจำเป็นต้องตอบในวาจานี้ เพราะหลายประเด็นได้ตอบไปแล้วในข้อเขียน ซึ่งเราใช้วิธีอ้างก็ได้ แต่บางประเด็นเราต้องพัฒนาข้อโต้แย้งข้อต่อสู้ เมื่อตกลงกันเสร็จ ก็ต้องแจกลูกกันว่า ใครจะเป็นคนทำระหว่างผมและที่ปรึกษาอีก 4 คน หลังช่วงบ่ายก็ทำประเด็นและแจกกันอีกครั้ง เมื่อวาน 6 โมงเย็น ก็แยกย้ายกันไปเขียนใหม่ค่อนข้างเยอะ เหมือนกังฟูว่าเราต้องปรับให้เข้ากับที่เขาออกอาวุธมาก เมื่อคืนจึงนอนน้อยมาก เพราะวันที่เขากล่าว ยากที่สุด ฟังแล้วต้องมาคิดและเขียนออกมา เมื่อคืนเขียนใหม่และส่งร่างใหม่ในวันนี้ ตอนนี้เป็นขั้นแก้ขั้นสุดท้าย ของผมตอนนี้ 99.99% คืนนี้ก็จะไปซักซ้อมการพูดอีกครั้ง" นายวีรชัย กล่าว
นายวีรชัย กล่าวว่า ประเด็นที่เป็นไฮไลท์สำคัญมากๆ คือเรื่องแผนที่ โดยศาลไม่ได้ดูแผนที่ฉบับเดียวแต่มีแผนที่อื่นๆมากมาย แต่กัมพูชาก็จำเป็นต้องพูดเช่นนั้น เพราะมันเป็นท่าทีของเขา แต่เราจะมีอะไรให้ศาลดูเยอะ เชิญชวนดูช่วงแผนที่ จะมีการนำเสนอแผนที่มาใช้หลายฉบับ
เมื่อถามว่าฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า มีการประท้วงคัดค้านเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำตัดสินของศาล ไทยจะหักล้างว่าไม่ควรรับตีความอย่างไร นายวีรชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นส่วนใหม่ที่ออกมาเมื่อวาน เพราะในข้อเขียนของเขา เขาบอกว่ามันไม่เกี่ยวและไม่เข้าใจว่าไทยต้องมาเสนอเอกสารมากมาย ซึ่งเป็นการไม่เคารพศาล ในที่สุดเขาก็ออกมาในส่วนนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเราพอจะโต้แย้งเขาได้ นอกจากนี้แผนที่มีหลายฉบับ ไม่ได้มีฉบับเดียว และไม่ได้พูดถึงแผนที่ซึ่งเกิดขึ้นหลังประเด็นอื่นๆ ที่ศาลใช้เป็นเหตุผลในการตัดสิน ซึ่งแผนที่เป็นหนึ่งในเหตุผล จะมีการโต้ตอบตรงนี้ที่ว่ามีเหตุผลอื่นด้วย
นายวีรชัย กล่าวด้วยว่า ฝ่ายไทยที่จะขึ้นพูดเรื่องแผนที่ คือ ทนายความหญิงอลินา มิรอง ผู้ช่วยของ ศ.อแลน แปลเล่ต์ เพราะเป็นผู้ที่ทำงานเรื่องแผนที่โดยเฉพาะกว่า 60 ฉบับ ซึ่งตนกับอลินา ทำงานเรื่องแผนที่ด้วยกันมาถึง 3 ปี และมีผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่จากมหาวิทยาลัยเดอรัมอีก 2 คน ซึ่งตนเห็นว่าเก่งที่สุดในโลก คือ นายมาร์ติน แครป และ นายอสาสแตร์ เม็กโคนัล สำหรับวันที่ 17 เม.ย.นี้ ตนจะขึ้นพูดเป็นลำดับแรก จากนั้น ศ.โดนัล เอ็ม แม็คเรย์ น.ส.อลินา มิรอง ศ.เจมส์? ครอว์ฟอร์ด และสุดท้ายคือ ศ.แปลเล่ต์ ส่วนที่มีการสลับลำดับขึ้นพูดหลายครั้ง ก็เพื่อให้ตรงกับสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภารกิจครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบค่อนข้างใหญ่ จะฝากอะไรถึงคนไทยที่ติดตามดู นายวีรชัย กล่าวว่า "ผมไม่เคยพูดว่าเราชนะแน่ ปกติผมจะตอบสามคำ "สู้เต็มที่" แต่วันนี้ขอเพิ่มสองคำ "สนุกแน่" และสำหรับวันที่ 17 เม.ย.นี้ ตนก็สวมชุด "มอร์นิ่ง โค้ต" ซึ่งเป็นชุดทางการของเนเธอร์แลนด์
ที่มา.เนชั่น
/////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น