--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

ทนง พิทยะ แนะธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งตัดสินใจสกัดทุนไหลเข้า !!?


ธปท.,ลดดอกเบี้ย,เงินทุนไหลเข้า,ทนง พิทยะ
ชี้มีทางเลือกระหว่างออกมาตรการระยะสั้นหรือลดดอกเบี้ย ดีกว่าปล่อยให้บาทแข็งกระทบส่งออก

นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าว่าขณะนี้คงอยู่ที่การตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าจะยอมปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงตามที่ตนเองและผู้ที่เกี่ยวข้องได้เสนอมาในระยะเวลาหลายเดือนก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งมองว่าการทยอยลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อเดือนและดูผลกระทบที่เกิดจากเงินทุนไหลเข้ามีความเหมาะสมที่จะดำเนินการได้

อย่างไรก็ตาม ต้องมีความเข้าใจการทำงานของ ธปท.ว่าการทำงานของ ธปท.ต้องคำนึงถึงเป้าหมายเงินเฟ้อ คือเป็นตัวเลขหลักที่ ธปท.ใช้และได้รับอนุมัติจากรัฐบาล โดยขณะที่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ ธปท.ตั้งไว้คือ 0.5 - 3% ดังนั้นการที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ที่ระดับ 1% เศษๆ ธปท.ก็เห็นว่าสถานการณ์ไม่น่าวิตกมากนัก แม้ ธปท.จะยอกมรับว่าค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคแต่ก็ยังไม่เห็นว่าผู้ว่าการ ธปท.จะตัดสินใจอย่างไร

นายทนง กล่าวว่า หากไม่มีการลดดอกเบี้ยก็ถึงเวลาที่จะต้องหามาตรการออกมาใช้ เพราะการที่จะไปพยุงค่าเงินบาท และขาดทุนอยู่เรื่อยๆไม่เหมาะก็ต้องใช้นโยบายอย่างอื่นบ้าง ต้องไปดูว่าประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน ว่าเขาใช้มาตรการอะไรทำอย่างไร โดยมาตรการควบคุมแม้จะออกมาเป็นระยะสั้นก็จำเป็น เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่าเราจะไม่ยอมให้ค่าเงินบาทแข็งเกินไป

"การคุมคือการคุมอะไรที่เก็งกำไรเกินควร การคุมฟองสบู่ไม่ให้เกิดขึ้น แต่การคุมอาจไม่ต้องทำก็ได้ เพราะมันอยู่ที่ตัวเอง มันอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินไป ซึ่งดอกเบี้ยต่ำลงก็เป็นผลดีต่อนักธุรกิจและผู้ประกอบการ ส่วนคนที่ฝากเงินก็มีทางเลือกอื่นๆ มากกว่าการฝากเงินในบัญชี ซึ่งกองทุนรวมก็มีการเติบโตมากขึ้นจนอยู่ที่ 60% แสดงว่าคนที่ฝากเงินในปัจจุบันมีความรู้มากขึ้น"นายทนงกล่าว

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น