--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

บิ๊กพาณิชย์ฯ ส่อพันข้าวถุง พบมีชื่อหน้าห้องเคยนั่งบอร์ด 1 ใน 3 บริษัทฯ นายหน้า !!?


บริษัทนายหน้าค้าข้าวถุง อคส.ยอมเปิดปาก ผู้บริหาร"สยามรักษ์" ยันค้าขายปกติ ไม่รู้จักใครในกระทรวงพาณิชย์เป็นพิเศษ พร้อมการันตีมีช่องทางจัดจำหน่ายแน่นอน จับกลุ่มลูกค้าจังหวัดเล็ก  "คอน-ไซน์ เทรดดิ้ง"อ้อมแอ้มโยนลูกอคส.ตอบ อ้างทราบเรื่องทุกอย่าง ขณะผลตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแย้งคำให้การ  1 ใน 3บริษัทพันหน้าห้องบิ๊กพาณิชย์ โยงใยบอร์ดอคส.

จากที่ได้ติดตามการตรวจสอบเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปีการผลิต 2554/55 และปีการผลิตนาปรัง 2555 เพื่อผลิตเป็นข้าวถุงแบรนด์ อคส.ออกจำหน่ายผ่านช่องทางร้านถูกใจ โครงการธงฟ้า และร้านค้าทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่า 1 ใน 3 บริษัท ที่ได้รับการจัดสรรโควตาจำนวน 3 แสนตัน ต่อเดือน ( มกราคม-มิถุนายน 2556) รวมปริมาณทั้งสิ้น 1.8 ล้านตัน คิดเป็นข้าวถุง 360 ล้านถุง(ขนาด 5 กก.)นั้น มีอดีตกรรมการของ 1 ใน 3 บริษัท ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการ(บอร์ด) อคส.และเป็นผู้ใกล้ชิดนักการเมือง

-หน้าห้องบิ๊กพณ.พันบริษัทฯค้าข้าว  
   
ล่าสุดได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(พค.)ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์(พณ.) พบว่า 1 ใน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท สยามรักษ์ จำกัด (บจก.) ได้แจ้งไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 ว่าได้มีกรรมการเข้าใหม่ 4 คน ได้แก่ 1.นางสุภาพร เชิงเอี่ยม 2.พันตรีวีระวุฒิ วัจนะพุกกะ (ปัจจุบันเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) 3.นายกณวรรธน์ อรัญ และ 4.รศ.พ.อ.น.พ.เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์  (ปัจจุบันเป็นรองประธานกรรมการ อคส.)
   
ต่อมาบริษัทได้แจ้งไว้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 ว่า มีกรรมการลาออก ได้แก่ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ในฐานะกรรมการ โดยมีหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2554  ส่วนทางด้าน รศ.พ.อ.น.พ. เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ ได้ลาออกจากกรรมการ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2555 พร้อมกับอีก 2 คนที่เข้ามานั่งในกรรมการของบริษัท ได้แก่ นางสุภาพร เชิงเอี่ยม และนายกณวรรธน์ อรัญ
   
อย่างไรก็ดีทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง รศ.พ.อ.น.พ.เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์  เพื่อขอคำชี้แจง แต่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า ท่านไม่อยู่ไปทำธุระข้างนอก    ส่วนด้านพ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พยายามติดต่อไป สายว่างแต่ไม่มีคนรับสาย โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอาจจะอยู่ที่รัฐสภา
   
อนึ่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555  ได้แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่น ในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อทดแทนตำแหน่งของกรรมการเดิมที่ลาออกไป ประกอบด้วย 1.พ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป ประธานกรรมการ 2.รศ.พ.อ. น.พ.เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ รองประธานกรรมการ 3.นายสุวรรณชาติ สูตรสุวรรณ กรรมการ
   
นอกจากนี้ยังมีกรรมการผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กรรมการผู้แทนจากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ นายโอฬาร พิทักษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กรรมการผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ได้แก่ นางพรกมล ประยูรสิน ผู้อำนวยการสำนัก สำนักมาตรฐานด้านการบัญชีภาครัฐ (สบร.)  และนายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล เป็นกรรมการ และเลขานุการรักษาการผู้อำนวยการ อคส.

-สยามรักษ์ยันไม่รู้จักใคร-ค้าขายปกติ
   
ด้านนายทวีศักดิ์ หิรัญรักษ์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามใน บจก.สยามรักษ์  1 ใน 3 บริษัทนายหน้าที่ได้มาซื้อข้าวถุงกับ อคส. เพื่อไปจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าทั่วไป ได้เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ในเวลาต่อมาว่า ครอบครัวประกอบธุรกิจค้าข้าวมาตั้งแต่ปี 2500 จนถึงปัจจุบันกว่า 50 ปีแล้ว อยู่ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นลูกคนเล็กอยากจะมีกิจการเป็นของตนเอง  จึงได้มาเปิดบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องหอมเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา โดยมีพื้นเพค้าขายข้าวอยู่แล้ว มีประสบการณ์ เติบโตมากับธุรกิจค้าข้าวโดยตรง เพียงแต่คนภายนอกมักจะไม่ค่อยทราบ
   
เห็นประกาศองค์การคลังสินค้า (อคส.)ผ่านหน้าเว็บไซต์ จึงเห็นว่าอย่างน้อยน่าจะได้ช่วยเหลือชาวนาทางอ้อม อีกทั้งทราบว่าโกดังกลางของรัฐบาลพื้นที่จำกัด จึงได้สนใจไปสมัครเพื่อที่จะขายข้าวให้กับ อคส.ถุงละไม่เกิน 70 บาท(5 กก.เป็นข้าวขาว 5%)  ยอมรับว่าทางบอร์ดของ อคส.เขี้ยวมากกว่าจะผ่านด่านได้แต่ละขั้นตอน ต้องถูกกลั่นกรองหลายรอบ ที่สำคัญจะต้องจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งในตอนแรกคิดว่าเหมือนบริษัทเอกชนทั่วไปที่นำสินค้าไปก่อนแล้วค่อยจ่ายภายใน 15 วันหรือ 30 วัน แต่ไม่ใช่ และคำสั่งซื้อขั้นต่ำอย่างน้อยต้อง 1 รถบรรทุกเล็ก ขออุบไม่บอกปริมาณ"
   
นอกจากนี้นายทวีศักดิ์ ยังกล่าวยอมรับว่า ข้าวขาวของ อคส. คุณภาพจะต่ำกว่าข้าวขาวทั่วไป ดังนั้นช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัทนอกจากจะเป็นคนที่เคยค้าขายกับครอบครัวแล้ว ยังมีเครือข่ายที่มารับข้าวถุงอคส.โดยตรงไปจำหน่าย เพราะข้าวขาวคุณภาพดังกล่าวเหมาะสำหรับกับคนต่างจังหวัด ในอำเภอที่อยู่ห่างไกล มากกว่าที่จะค้าขายในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่  แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าได้กระจายที่ไหนบ้าง เพราะถือเป็นความลับทางการค้า
   
จริงๆ แล้วมาร์จิน กำไรน้อยมาก หรืออาจจะขาดทุนด้วยซ้ำไป เพราะตอนที่ตกลงกัน ค่าขนส่ง (น้ำมัน) อีกราคาหนึ่ง พอรับจริง น้ำมันปรับราคาขึ้นไปอีก และยิ่งมาโดนข่าวแบบนี้ด้วย คนทางบ้านก็ตกใจใหญ่ โดยเฉพาะคนที่เคยติดต่อด้วย เพราะคิดว่าเราไปทำอะไร เกิดอะไรขึ้น อยากจะใช้เวทีนี้ชี้แจงว่าเป็นการค้าขายปกติ และไม่รู้จักใครที่กระทรวงพาณิชย์ หรือในบอร์ดของอคส.เลย "

- "คอน-ไซน์" โยน อคส.ตอบ
   
ขณะที่นางอันนา เตชะอัครเกษม กรรมการผู้มีอำนาจลงนามในบจก.คอน-ไซน์ เทรดดิ้ง (อีก 1 ใน 3 บริษัท)ทางทีมข่าวได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปหลายครั้ง เพื่อสอบถามถึงเส้นทางการจัดจำหน่ายข้าวถุง อคส.ของบริษัท เธอตอบแบบอ้อมแอ้ม และสุดท้ายได้โยนกลับให้ไปถามที่ อคส. โดยระบุ อคส.ทราบเรื่องเป็นอย่างดี

-บอร์ดย้ำข้าวถุงไม่ได้ล่องหน
   
ส่วนพ.ต.ท. ไพโรจน์ ปัญจประทีป ประธานบอร์ด อคส. กล่าวว่า ข้าวถุงจำนวน 5.8 แสนตัน จาก 6 แสนตันในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.56) ไม่ได้ล่องหนหายไปไหน และที่นายสมศักดิ์ วงศ์วัฒนศานต์ รองผู้อำนวยการ อคส.ที่ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้มีเหตุผลและน้ำหนักที่น่าเชื่อถือ ซึ่งตนเองอยู่ในฐานะบอร์ด ไม่อยากจะชี้แจงอะไร เพราะอำนาจนั้นอยู่ที่ฝ่ายบริหารมากกว่า ซึ่งความจริงทางบอร์ดไม่ต้องรับรู้เรื่องดังกล่าวก็ได้ และถ้าหากคณะอนุกรรมาธิการ การเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ตรวจพบอะไร ท้ายสุดแล้วจะต้องแจ้งมายังบอร์ดเพื่อพิจารณาต่อไป

"ขณะนี้กำลังรอทางคณะอนุกรรมาธิการ สรุปผลอีกครั้ง จึงยังไม่อยากจะชี้แจงอะไรมาก"

-ข้าวถุงช่องทางรายได้หนึ่งเลี้ยง อคส.
   
แหล่งข่าวจากกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงโครงการโชห่วยช่วยชาติ ร้านค้าถูกใจ ปัจจุบันมีกว่า 7 พันแห่ง จากเดิมมีกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ โดยสินค้าที่ขายดีที่สุดคือข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัม มีทั้งข้าวขาว 5% และข้าวเหนียว 10% จำหน่ายไม่เกินถุงละ 70 บาท โดยด้านหน้าถุงจะมีโลโก "ร้านถูกใจ" ส่วนด้านหลังจะมีตราสินค้าของ อคส.  และด้านล่างถุงจะพิมพ์ข้อความว่าผลิต และบรรจุโดยบริษัท ... นับเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายและรายได้ของ อคส.อีกช่องทางหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นข้าวถุงยี่ห้อ อคส. เพื่อจำหน่ายในร้านค้าสวัสดิการของ อคส. มีข้าวหลากหลายชนิด อาทิ ข้าวหอมมะลิ เป็นต้น ราคาจะเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่หากเป็นข้าวขาว 5% ขนาด 5 กิโลกรัม จะขาย 70 บาทเช่นกัน
   
ปกติร้านถูกใจ จะมีคำสั่งซื้อข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ จำนวน 1 ล้านถุง แต่ทาง อคส.ไม่สามารถผลิตได้ทัน จึงจัดส่งได้สัปดาห์ละ 5 แสนถุงเท่านั้น ปัจจุบันตั้งแต่เริ่มโครงการตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 จนถึง 31 มีนาคม 2556   สามารถส่งข้าวถุงถุงละ 5 กิโลกรัมได้ จำนวน 15.5 ล้านถุง คิดเป็น 67% ของรายได้ร้านถูกใจ รองลงมาเป็นน้ำมันพืช 14% น้ำตาล 7% และอื่นๆ 12%  รวมมูลค่ายอดขายทั้งหมด  1.5 พันล้านบาท ช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคได้ 550 ล้านบาท "
   
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการโชห่วยช่วยชาติ "ร้านถูกใจ" โดยได้รับอนุมัติงบดำเนินการ 1.3 พันล้านบาท เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคจำเป็นต่อการครองชีพราคาต่ำกว่าท้องตลาด 10-20% ได้เปิดรับสมัครร้านค้า และสหกรณ์ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดทางกรมการค้าภายในได้เตรียมโอนให้ อคส.เป็นผู้ดำเนินการต่อ

ที่มา:นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น