--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

รถเมล์ฟรี เรือฟรี..ของฟรีไม่มีในโลก !!?


สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีการหาเสียงด้วยนโยบายลด-แลก-แจก-แถมเข้าขั้น “น่าเกลียด”

ถ้าปล่อยให้เล่นการเมืองกันแบบนี้อีกไม่เกิน 10 ปี ประเทศชาติฉิบหายแน่นอน

เพราะมีเลือกตั้งทีไร นักการเมืองสามานย์ก็จะงัดนโยบายพรรค์อย่างนี้ออกมาหวังซื้อเสียงชาวบ้าน

ใครๆ ก็ชอบของฟรี

แต่ของฟรี ไม่มีในโลก

ยกตัวอย่าง นโยบายหาเสียงประเจิดประเจ้อที่สุด แจกแบบไม่คิดอะไรมากที่สุด คือ การสัญญาว่าจะให้ประชาชนได้ใช้รถเมล์ฟรี เรือคลองแสนแสบฟรี เรือข้ามฟากฟรี

1) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคเพื่อไทย หาเสียงว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ จะจัดให้มีรถเมล์ฟรีทุกคันสำหรับรถร้อน เรือคลองแสนแสบฟรี ส่วนรถเมล์ติดแอร์จะให้คิดค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย

รายละเอียด ความเป็นไปได้ ที่มาของเงินทุน ตลอดจนวิธีดำเนินการไม่มีการเปิดเผย

ล่าสุด ถูกซักถามมากเข้าว่าจะเอาเงินจากไหนมาทำ ก็อ้างเพียงว่าจะใช้งบ 9,000 ล้านบาทต่อปี

2) ข้อเท็จจริงของงบประมาณ กทม.เวลานี้

ไม่แน่ใจว่าผู้สมัครบางคนเคยทราบ เคยศึกษาก่อนที่จะเสนอนโยบายหาเสียงหรือไม่?

รู้ แต่แกล้งไม่รู้?

โง่ แล้วตีหน้าซื่อ หาเสียงสร้างภาพ ลวงหลอกชาวบ้านไปวันๆ?

ปีงบประมาณ 2556 กทม.ประมาณการรายได้ไว้ทั้งสิ้น 60,000 ล้านบาท

จำแนกเป็นรายได้ที่ กทม.จัดเก็บเอง 13,200 ล้านบาท เช่น ภาษีบำรุงท้องที่ 130 ล้านบาท, ภาษีโรงเรือนและที่ดิน 9,850 ล้านบาท, ภาษีป้าย 710 ล้านบาท, รายได้จากโรงรับจำนำในสังกัด กทม. 580 ล้านบาท, รายได้จากตลาด กทม. 170 ล้านบาท ฯลฯ

รายได้ที่ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ 46,800 ล้านบาท เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม 22,500 ล้านบาท, ภาษี/ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ 8,100 ล้านบาท, ภาษี/ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 11,000 ล้านบาท, ภาษีสรรพสามิต 1,900 ล้านบาท ฯลฯ

ขณะเดียวกัน รายจ่ายของ กทม. ในปีงบประมาณ 2556ปรากฏว่า เป็นรายจ่ายประจำ 51,685 ล้านบาท

รายจ่ายประจำ คือ รายจ่ายจำพวกเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าน้ำค่าไฟฟ้า ค่าครุภัณฑ์ ฯลฯ ไม่เกี่ยวกับโครงการพิเศษ หรือโครงการใหม่ๆ อื่นใด

แต่ละปี กทม.มีงบประมาณเหลือไปจ่ายในโครงการใหม่ๆ หรือโครงการลงทุน จำกัดจำเขี่ยมาก ไม่ถึง 10,000ล้านบาท (ถ้าจะทำโครงการ จะต้องใช้วิธีตั้งงบประมาณชดเชยในปีต่อๆ ไป)

3) ถ้าผู้บริหาร กทม. จะใช้งบ กทม.จ่ายค่ารถเมล์ฟรี ค่าเรือฟรี ฯลฯ ตามที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หาเสียงไว้ โดยอ้างว่าใช้งบปีละ 9,000 ล้านบาทจริงๆ

ย้ำ... ปีละ 9,000 ล้านบาท!

พึงสำเหนียกว่า ปีนั้นๆ จะไม่เหลืองบประมาณไปใช้จ่ายในโครงการอื่นๆ ได้อีกแล้ว

4) รถเมล์ฟรีภาษีประชาชนที่มีบริการอยู่ 800 คันทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่ของฟรี

เป็นการเอาเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาจ่ายชดเชยให้ ขสมก.

ไม่ได้ใช้งบประมาณของ กทม.

เป็นอำนาจของรัฐบาล ดำเนินการผ่าน ขสมก. ซึ่งอยู่ใต้กำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม

ใช้เงินมาแล้วหลายพันล้านบาท

ส่วนเรือฟรี ถ้า กทม.จะทำ ก็จะต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายให้เอกชนที่เขาเดินเรืออยู่

แบบนี้ บริษัทเดินเรือเอกชน เขาชอบแน่นอน เพราะจะได้รายได้แน่นอน

ถ้าอ้างว่า จะไปขอเงินจากรัฐบาล แบบนี้ก็เข้าข่ายหาเสียงเกินอำนาจ คุยโวเกินขอบเขตหน้าที่ เอารัดเอาเปรียบผู้สมัครคนอื่น แถมกระทรวงคมนาคมก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่มีนโยบายอุดหนุนให้รถเมล์ฟรีทุกคัน

หากรัฐบาลจริงใจที่จะทำ ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ เพราะสามารถทำได้เลย แต่ถ้ารัฐบาลใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขว่าจะต้องเลือกคนของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ว่าฯ กทม.จึงจะจัดสรรงบประมาณดำเนินการให้ แบบนี้ก็จะเป็นเสมือนการข่มขู่ เรียกค่าไถ่ ตีเมืองขึ้นเอากับคน กทม.

5) วิธีหาเสียงแบบโม้ไว้ก่อนเช่นนี้ ทำให้นึกถึงนโยบาย “ดีแต่โม้” หลายๆ เรื่องของพรรคเพื่อไทย

บัดนี้ ก็ไม่สามารถทำได้จริง

ไม่ว่าจะเป็น กระชากค่าครองชีพลงมา ยุบเลิกกองทุนน้ำมัน ไม่กู้หนี้ยืมสิน ฯลฯ

หรือนโยบายคล้ายๆ กัน คือ หาเสียงไว้ก่อนเลือกตั้งว่า จะให้ใช้รถไฟฟ้าราคา 20 บาทตลอดสาย

จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีวี่แวว

ข่าวคราวสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ออกมาจากปาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ขณะนั้น) ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า นโยบายหาเสียงเรื่องรถไฟฟ้า 10 สาย ค่าโดยสาร 20 บาท อาจจะต้องเป็นหมัน โดยอ้างว่าบริษัทเอกชนที่ประกอบการรถไฟฟ้าอยู่เดิมอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากนโยบาย!

ครั้งนี้ ก็จะเล่นอีหรอบเดิมอีกหรือ?

ที่มา.นสพ.แนวหน้า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น