--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

นักโทษทางการเมืองไทย และมือที่มองไม่เห็น !!?


ความขัดแย้งทางการเมืองก่อให้เกิดนักโทษทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กลุ่มคนซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำไทยเนื่องมาจากความเชื่อทางการเมืองคือเหยื่อของความไม่สงบและโศกนาถกรรมที่นำไปสู่การเสียชีวิตในเดือนเมษายน/พฤษภาคมในปี 2553

สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับบุคคลที่มองหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองคือการปล่อยนักโทษทางการเมืองรากหญ้า โดยต้องมีการนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มคนที่กำลังรอการพิจารณาคดีและกำลังหลบหนี กระนั้นในปัจจุบัน กระบวนการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ในประเทศไทย ยังไม่มีการทำในสิ่งสำคัญที่ควรทำนั้นคือการปล่อยนักโทษเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้สำหรับบุคคลที่ตั้งใจฟื้นฟูสิทธิทางประชาธิปไตยของประชาชนไทยอย่างจริงจัง ผมเชื่ออย่างหนักแน่นว่าการปล่อยนักโทษคนเสื้อแดงรากหญ้าและนักโทษหมิ่นพระบรมเดชานุภาพคือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาล การเพิกเฉยปัญหาอันสำคัญนี้เป็นการผลักไสกลุ่มสำคัญที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

ผู้สังเกตการณ์บางรายอาจสงสัยว่าเหตุใดรัฐบาลที่ได้รับประชามติประชาธิปไตยอย่างท่วมท้นอย่างแกนนำรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงไม่สามารถดำเนินการแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ แม้หลังจากการการเลือกตั้งปี 2554 จะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนไทยต้องการให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยไม่สามารถบังคับใช้นโยบายส่งเสริมสิทธิทางการเมืองของประชาชน ได้บอกเป็นนัยถึงหนึ่งในปัญหาอันยากจะแก้ไขปัญหาหนึ่งในการเมืองไทย รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแท้จริงอาจเข้ามาบริหารประเทศแต่อาจจะต้องก้มหัวให้กับกลุ่มอำนาจที่อยู่รอบด้านซึ่งเราเรียกว่า “รัฐซ้อนรัฐ” หรือ “มือที่มองไม่เห็น” (ผู้เขียนใช้คำว่า deep state)

ผมเขียนเคยเขียนบทความเกี่ยวกับรัฐซ้อนรัฐมาแล้ว มือที่มองไม่เห็น (หรือ deep state) คือคำศัพท์ที่เริ่มใช้ในประเทศตรุกี เพื่ออธิบายกลุ่มอำนาจในกองทัพ ตุลาการ และข้าราชการในตรุกีซึ่งใช้อำนาจทำลายประชาธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์อันมหาศาลของตนเอง ในบทความที่ชื่อว่า “The Rise and Decline of the Turkish Deep State: The Ergenekon Case” ผู้เขียน Serdar Kaya ระบุว่าแผนการทางการเมืองที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับมือที่มองไม่เห็นคือ 1) ความคลั่งชาติ 2) ความเกี่ยวข้องและการแทรกแซงการเมืองของกองทัพ และ 3) สร้างความชอบธรรมให้กับกิจกรรมนอกกฎหมายและความรุนแรงในนามของการปกป้องปิตุภูมิ ไม่ต่างจากประเทศไทย ในประเทศตรุกี กลุ่มผู้มีอำนาจซึ่งไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนได้แทรกแซงทางการเมืองเพื่อทำลายกระบวนการทางประชาธิปไตย และเมื่อไม่นานมานี้ กระบวนการสร้างประชาธิปไตยในประเทศตรุกีแข็งแรงขึ้นเพราะมีการลงโทษจำคุกนายทหารซึ่งวางแผนล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แสดงให้เห็นว่านี่อาจเป็นแนวทางที่ประเทศไทยควรทำเพื่อสร้างความมั่งคงให้กับประชาธิปไตยและเพื่อจัดตั้งสิทธิทางการเมืองอย่างเต็มขั้นให้กับพลเมืองไทย กลุ่มเครือข่ายมือที่มองไม่เห็นของไทยจะต้องอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม

แต่เรื่องเหล่านี้บอกอะไรเกี่ยวกับนักโทษทางการเมืองไทยบ้าง? เราจะสามารถเรียกว่านี้คือประชาธิปไตยได้หรือไม่หากประชาชนยังถูกคุมขังในคุก ในขณะที่กลุ่มผู้มีอำนาจซึ่งไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนยังกระทำการตามอำเภอใจโดยไม่เคารพหลักนิติธรรม? เหตุใดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยจะต้องก้มหัวให้กับกลุ่มอำนาจนี้โดยการปฏิเสธเสรีภาพขั้นพื้นฐานของลูกหลานชาวไทยอย่างต่อเนื่อง?

เราต้องขอบคุณนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ที่เสนอแนวทางที่เป็นไปได้ในการปล่อยนักโทษทางการเมืองไทย กลุ่มนิติราษฎร์ได้ร่างเอกสารชื่อ “ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้ง” ซึ่งเป็นร่างรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพื่อนิรโทษกรรมประชานที่ถูกดำเนินคดีอาญาอันเกี่ยวเนื่องกับการเมืองนับตั้งแต่วันที่ทหารทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลทักษิณที่มากจาการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 จนถึงวันที่อดีตนายกรัฐอภิสิทธิ์ประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 โดยข้อเสนอนี้จะนิรโทษกรรมประชาชนทุกคน  “ยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐ”

แม้ว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยจะนำเอาข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ไปปรับใช้หรือไม่ แต่ปัญหาทางตันเรื่องนักโทษจะต้องยุติ จะต้องไม่มีนักโทษถูกปล่อยให้ตายในเรือนจำเพราะอาชญากรรมทางความคิดอย่าง นายวันชัย รักสงวนศิลป์และ นายอำพล ตั้งนพกุลอีก ต้องไม่มีการยินยอมให้เงามืดในกลุ่มมือที่มองไม่เห็นสั่งการเพื่อจำกัดเสรีภาพของประชาชนไทยอีกต่อไป ต้องมีการจัดตั้งกระบวนการที่ชัดเจนและกระจ่างชัดเพื่อปล่อยคนเสื้อแดง ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องแสดงความกล้าหาญและลุกขึ้นต่อสู้

Read more from โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น