ครม. ตั้งกรรมการทบทวนเงินเดือนข้าราชการ เปิดทางรื้อใหญ่ทั้งระบบทุกกระทรวง รวมสภา ศาล องค์กรอิสระ และท้องถิ่น เพื่อทำให้โครงสร้างเงินเดือนข้าราชการ 2.72 ล้านคนเกิดความสมดุลและเท่าเทียม
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เตรียมเรื่องเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อศึกษาทบทวนความเหมาะสมของค่าตอบแทนของผู้บริหารและบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐในภาพรวมทั้งหมดให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในสัปดาห์หน้า
โดย ก.พ.ร. ได้เสนอเรื่องการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชนเพื่อเสนอต่อ ครม. เมื่อวันที่ 21 มกราคม และขอเสนอให้ ครม. พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อศึกษาทบทวนความเหมาะสมของค่าตอบแทนของผู้บริหารและบุคลากรในหน่วยงานรัฐทั้งหมด ซึ่ง ครม. พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อทำให้โครงสร้างเงินเดือนข้าราชการ 2.72 ล้านคนเกิดความสมดุลและเท่าเทียม และแก้ไขปัญหาการลักลั่นอันเนื่องมาจากองค์กรอิสระขอปรับขึ้นเงินเดือนตัวเอง จึงเห็นควรตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นมา โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นรองประธาน กรรมการอื่นที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ด้านเงินเดือนและค่าตอบแทนจำนวน 6 คน รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ศึกษาและวิเคราะห์เปรียบเทียบเกี่ยวกับอัตราค่าตอบแทนของหน่วยงานภาครัฐในภาพรวม ทั้งส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หน่วยงานอื่นของรัฐในสังกัดฝ่ายบริหาร สังกัดฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ เพื่อให้อัตราค่าตอบแทนมีความเสมอภาค เป็นธรรม และเหมาะสมเทียบเท่ามาตรฐานการครองชีพ และให้สอดคล้องกับระบบการบริหารงานสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังให้จัดทำข้อเสนอการปรับปรุงอัตราค่าตอบแทนขั้นสูงและขั้นต่ำของผู้บริหารภาครัฐที่เป็นมาตรฐานกลางหรือบัญชีกลาง เพื่อ ครม. จะได้ใช้ประกอบการพิจารณากำหนดค่าตอบแทนของผู้บริหารต่อไป รวมทั้งเปรียบเทียบค่าตอบแทนกับภาคเอกชนด้วย
ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น