--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

บทสรุป คอป.ชายชุดดำ-กระสุนจริง !!?

หลังทำงานมากว่า 2 ปี คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) จะสรุปรายงานผลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 ฉบับสุดท้าย ซึ่งเป็นฉบับสมบูรณ์ออกมาวันนี้ (17 ก.ย.)

ก่อนหน้านี้ คอป. นำเสนอรายงานและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลมาแล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรกเสนอเมื่อทำงานครบ 6 เดือนต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ข้อเสนอหลายอย่างที่มุ่งหวังช่วยลดความขัดแย้ง ส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม ถูกเมินเฉยไม่นำไปปฏิบัติ

ตั้งขึ้นมากับมือแต่ไม่รับผลการศึกษาไปดำเนินการจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ

ฉบับที่สอง รายงานต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้รัฐบาลนำไปปฏิบัติ แต่ก็ถูกกระแหนะกระแหนว่าเลือกทำเฉพาะข้อเสนอที่เป็นคุณกับคนเสื้อแดง

หนำซ้ำยังขยายผลข้อเสนอของ คอป. มากเกินกว่าความจำเป็นเพื่อช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่มีคดีความติดตัว

มุ่งหวังขยายผลเพื่อลบล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แกนนำตัวจริงของคนเสื้อแดง

รายงานของ คอป. ชิ้นสุดท้ายนี้มี 516 หน้า แบ่งเป็น 5 ส่วน ส่วนสำคัญที่ทุกคนอยากรู้น่าจะอยู่ในส่วนที่ 2 ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายชุดดำ กระสุนจริง และการเผาอาคารสถานที่ต่างๆ

ในประเด็นเรื่อง “ชายชุดดำ” กับการใช้ “กระสุนจริง” สลายการชุมนุมของประชาชน อันเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายนั้น

ประเด็นชายชุดดำ คอป. สรุปว่ามีอยู่จริง

โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน

“คนชุดดำมีความสัมพันธ์กับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง โดยคนชุดดำมีเป้าหมายปลุกเร้าให้เกิดการตอบโต้จากรัฐ เข้าไปเพื่อสร้างสถานการณ์ แต่ขณะเดียวกันการเสียชีวิตของเสธ.แดงถูกยิงออกมาจากตึกที่เจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปยึดครองได้เกือบ 1 เดือนแล้วก่อนหน้านั้น วิถีกระสุนจึงมาจากตึกที่เจ้าหน้าที่รัฐคุมอยู่”

นี่คือบทสรุปจาก คอป.

ส่วนประเด็นการใช้กระสุนจริง คอป. สรุปว่า จุดพลิกผันเกิดหลังจากการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ที่จบชีวิตที่สี่แยกคอกวัวระหว่างนำกำลังพลไปขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุม ทำให้สถานการณ์เปลี่ยน

เพราะหลังจากนั้นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกคำสั่งให้ใช้กระสุนจริงได้

อีกบทสรุปที่น่าสนใจในรายการฉบับนี้ของ คอป. คือ เรื่องการเสียชีวิต 6 ศพในวัดปทุมวนาราม

คอป. ระบุชัดว่า วิถีกระสุนที่ยิงปลิดชีพทั้ง 6 คนมาจากฝั่งบนรางรถไฟฟ้าที่มีเจ้าหน้าที่รัฐประจำการอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตทั้ง 6 ศพ

สำหรับประเด็นการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ คอป. ฟันธงว่าไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ

นอกจากรายงานข้อเท็จริงที่ คอป. ไปสืบเสาะมาได้จากการสอบถามบุคคลต่างๆ ในท้ายรายงานยังมีข้อเสนอแนะแนวทางสร้างความปรองดอง ด้วยการนิรโทษกรรมที่ คอป. เห็นว่าการออก พ.ร.บ.ปรองดองยังต้องอาศัยเวลาที่เหมาะสม การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเยียวยา รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต

นี่เป็นสรุปจากการทำงานกว่า 2 ปีของ คอป.

จะว่าไปแล้วก็เป็นแค่รายงานผลจากการเชิญฝ่ายต่างๆมาเล่าเหตุการณ์ แล้วนำมาประมวลเพื่อนำเสนอต่อสังคม

ส่วนข้อเสนอที่เป็นทางออกของการแก้ปัญหาดูเหมือนว่าไม่มีนวัตกรรมใหม่จาก คอป. เพราะล้วนเป็นแนวทางที่พูดกันมาตลอดตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2549 ด้วยซ้ำ

จะว่าเสียเวลา เสียงบประมาณเปล่าก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว

อย่างน้อยก็ได้รายงานออกมา 1 ชุด

ส่วนจะนำไปใช้อะไรต่อเพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่เชื่อว่ารายงานของ คอป. จะมีการหยิบยกในส่วนที่เป็นประโยชน์ของแต่ละฝ่ายไปใช้ประกอบการสู้คดีความที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่

หลังจากนี้ต้องรอดูผลการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าออกมา

แน่นอนว่าผลการสอบสวนของทั้ง 2 องค์กรนี้จะมีผลต่อการชี้ถูกชี้ผิด

มีผลต่อคดีความมากกว่ารายงานของ คอป. ที่นำเสนอแบบผิดทั้งคู่ ให้เจ๊าๆกันไปเพื่อเริ่มต้นใหม่

ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
*************************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น