ดร.สมคิด" ชี้คอร์รัปชั่นในไทยยังสูงเหตุผู้นำไม่เอาจริง ภาคประชาชนไม่เข้มแข็ง จี้รัฐเปิดข้อมูลการใช้งบประมาณและการประมูลงานต่างๆ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ บรรยายพิเศษเรื่อง “รวมพลังงานผลักดันการต่อต้านคอร์รัปชั่น ให้เป็นวาระแห่งชาติ” ภายในงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่น :รวมพลังเปลี่ยนประเทศไทย”ว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นเรื้อรังและสะสมมานาน ทั้งที่เครื่องมือในการปราบปรามของประเทศไทยก็มีอยู่พอสมควร
แต่ปัญหาคอร์รัปชั่นก็ยังแบ่งบานและกำจัดออกไปไม่ได้ ซึ่งต่างจากสิงคโปร์ที่กลายเป็น 1 ใน5 ประเทศของโลกที่ไม่มีการคอร์รัปชั่น เพราะไทยยังขาดความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังของผู้นำประเทศ และภาคประชาชนไม่เข้มแข็งพอ
โดยเฉพาะประเทศไทยที่ยังไม่สามารถปิดกั้นการไต่เต้าของนักการเมืองที่โตมาจากระบบสินบน เพราะทำให้การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นทำไม่ได้เต็มที่ เนื่องจากเป็นการปะหน้าก็เจอจมูก ทำให้ไม่กล้าฆ่าห่านทองคำ ซึ่งทำให้ตอนนี้คนไทยเริ่มเห็นเรื่องการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติและเริ่มกระจายไปทั่ว ดังที่ผลการสำรวจออกมาพบว่า ส่วนใหญ่46%ยอมรับได้หากเกิดการคอร์รัปชั่นแล้วตัวเองจะได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งผู้ที่ตอบนี้ส่วนใหญ่ 70%เป็นเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งหากปล่อยไว้แบบนี้จะกลืนกินความดีและจริยธรรมในสังคมไป
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจถือเป็นข้อต่อสำคัญในการต่อต้านคอร์รัปชั่น เพราะถ้าภาคธุรกิจไม่ยอมจ่ายเงินสินบน การคอร์รัปชั่นก็ไม่เกิด ขณะเดียวกันการคอร์รัปชั่นก็ไม่สามารถขจัดออกไปได้หมด เพราะต้องยอมรับว่าภาคประชาชนของไทยยังอ่อนแอ ดังนั้นภาคธุรกิจจึงเป็นข้อต่อในการประสานกันเพื่อต่อต้านการเกิดคอร์รัปชั่นด้วย
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นต้องเริ่มจากตัวเองด้วยคำว่า ไม่ ไม่เริ่มต้น ไม่ลอง แม้ว่ามันจะเย้ายวนมากขนาดไหนก็ตาม เพราะลองเข้าไปแล้วจะเสพย์ติดจนเส้นแบ่งระหว่างความดีกับความชั่วขาดไป และในภาคธุรกิจเองก็ต้องไปสำรวจธุรกิจตัวเองดูว่ามีต้นทุนในส่วนของการคอร์รัปชั่นมากน้อยแค่ไหนแล้วนำตัวเลขนั้นมาเปิดเผยให้ชาวบ้านได้รับทราบ เพื่อจะได้เข้าใจและเห็นความจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งองค์การที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบจะต้องเปลี่ยนแปลงจากเสือกระดาษให้เป็นเสือลายพาดกลอนให้ได้
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น