ยังไงๆ ก็ยังไม่อาจพลิกมุมไปเป็นอื่นได้ ตราบใดที่เหตุการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ยังเป็นปริศนาคาใจประชาชนว่า ภาพที่เห็นธงมาเลเซียปักเรียงรายนับ ร้อยจุดที่นั่น เป็นสัญญาณบอกถึงการรุกเข้ามาของ “กลุ่มภักดีมาเลย์ในไทย”
หรือว่าเป็น “Power Play” ระหว่าง BRN กับฝ่ายความมั่นคง หรือพรรคการเมืองต่างขั้วกันแน่?
คนไทยที่ห่างไกลเหตุการณ์ จึงควร “ฟังหู ไว้หู” อย่างมีวิจารณญาณ เพราะกลุ่มคนที่กล้าไปไหนมาไหนในยามราตรีบนถนนสายเปลี่ยวได้มีแค่ 2 กลุ่มเท่านั้น คือกลุ่มก่อความไม่สงบ กับกองกำลังเจ้าหน้าที่รัฐ...จะให้ชาวบ้านธรรมดาเดินเล่นเพ่นพ่านท่ามกลางสถานการณ์ที่ไว้ใจใครไม่ได้เลย คงมีแต่คนบ้าเท่านั้นที่อยากถูกลูกปืนไร้สังกัด
แถม “ตัวการสุมไฟใต้” ก็หาใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนกลุ่มเดียว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ที่นั่นก็หาได้เข้าข้างเสมอไปไม่ แต่ยังมีกลุ่มพ่อค้ายาเสพติด มีข้าราชการ บางแก๊งและ “มาเฟียท้องถิ่น” ที่กุมธุรกิจค้าของเถื่อนตามชายแดน ช่วยผสมโรงคุมพื้นที่ที่ตัวเองมีอิทธิพลอีกต่างหาก
นั่นก็ไม่ร้ายเท่าอำนาจนอกระบบที่แฝงตัวอยู่กับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายกองทัพ และการเมืองท้องถิ่นที่ขับเคี่ยวชิงไหวชิงพริบตลอดเวลา
แค่ตั้งคำถามลอยๆ ว่า 8 ปี ที่กองทัพมีอำนาจเต็มในการสยบผู้ก่อความไม่สงบ เป็นไปได้หรือที่กองทัพ “จับตัวการ”และควานหาต้นตอไม่พบ?
ถ้าจะอ้างว่า “ตัวการ” ผู้ก่อความไม่สงบ อาศัยแผ่นดินมาเลเซียเป็นฐานปฏิบัติการ ก็ต้องตั้งคำถามว่า 8 ปีที่นั่น ฝ่ายความมั่นคงเสียงบประมาณไปเกือบๆ 2 แสนล้านบาทแล้ว พวกท่านไม่มีแผนที่จะส่ง “สายลับ” ไปสืบหาความจริงบ้างเลยหรือ
หรือว่ารู้ และทำจนเห็นเส้นสนกลในหมดแล้ว แต่อุบเงียบ เพราะไม่อยากให้เหตุที่นั่นสงบ เพื่อหวัง “ครองสถานการณ์” ให้กลายเป็น “สนามรบ” เรื้อรังยาวนาน...งบประมาณจะได้บานปลาย “ไม่รู้จบ”
จังหวะเดียวกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากุมอำนาจ แต่ไม่ประสีประสาปัญหาที่นั่นแม้แต่น้อย “โอกาสดี” อย่างนี้ มีหรือที่จะพลิกเป็น “วิกฤติ” เนียนๆ ขึ้นมาไม่ได้?
ขอยืนยันถึงนาทีนี้ว่า ไม่ว่ายุครัฐบาลประชาธิปัตย์จะส่งคุณถาวร เสนเนียม ไปดูแล 3 จังหวัดใต้ หรือรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะไปฟังรายงานจาก สมช.หรือ กอ.รมน. ภาค 4 มันก็ล้วนเป็นข้อมูลอดีตที่ถูกขุดมาจากกรุเก่า แล้วแต่งแต้มเติมสีให้ดูทันสมัยกว่าเดิมเท่านั้น
ขณะนี้ข้อมูลฝ่ายความมั่นคงได้ละเลงก้าวข้าม 3 จังหวัดภาคใต้ให้ดูเสมือน ว่า สงครามกองโจรที่นั่นถูกสนับสนุนมาจากกลุ่มก่อการร้ายอาหรับชื่อ “ตอลีบัน” อันลือชื่อระดับโลกไปแล้ว
ตลกมั้ยที่ตัวแทนประชาคมชาติมุสลิมโลก (OIC) อุตส่าห์ยืนยันว่าเหตุไม่สงบที่นั่นเป็นเรื่องภายในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ไทยกลับบิดโยงให้ถึงพวกตอลีบัน ไปเสียฉิบ
ทำให้อดนึกถึงข้ออ้าง “ชายชุดดำ” ที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่คิดที่จะสืบจับในห้วงครองเมืองจากเหตุการณ์พฤษภาฯ 53 แล้วโพนทะนาว่าเป็นพวก “เผาบ้าน เผาเมือง”
หรือมันเป็นจินตนาการให้ 3 จังหวัดใต้ มีผู้ร้าย เป็น BRN เริ่มต้นก็อ้างได้แรงหนุนจากกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยะฮ์ในอินโดนีเซีย แต่วันนี้กลับอ้างไปไกลถึงกลุ่มตอลีบันส่งเงินมาให้คน 3 จังหวัดแยกดินแดน
ดีไม่ดี ข้อมูลสุดลับคงอาจสืบพบว่า กลุ่มอัลเคด้า ก็ส่งเงินมาหนุนทั้งๆ ที่นายโอซามา บินลาเดน ถูกปิดฉาก “เก็บตาย” ไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้วก็ได้
ดูแค่ฉากตำรวจนำคนขับรถเฟอร์รารี่ตัวปลอมในบ้านตระกูล “กระทิงแดง” มามอบให้ตำรวจด้วยกัน ก็พอจะจับเค้าลางได้หรือไม่ว่า “เจ้าหน้าที่มีมายากลได้ทุกท่า” ตั้งแต่คดีธรรมดายันคดีเพชรซาอุฯ
นับประสาอะไรที่นายกฯ ปู เดินทางลงไปฟังรายงานจากฝ่ายความมั่นคงก็ “จบข่าว” โดยไม่ฟังเสียงฝ่ายมวลชนคนท้องถิ่นเลย แล้วนายกฯ จะเฉลียวใจบ้างมั้ยว่า
เบื้องลึกของเหตุร้ายที่นั่น มันอาจเป็นเกม “เพื่อนรักหักเหลี่ยม ศอ.บต.” ก็ได้...ใครจะไปรู้?
ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น