--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ปัญหาอยู่ตรงนี้ !!?

ได้เกิดคำถามตามมาทันทีว่า...ปัญหาของประชาธิปัตย์จริงๆ อยู่ที่ไหนกันแน่
ภายหลังจากที่ คุณพิชัย รัตตกุล ได้ออกมาวิพากษ์บทบาทของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างนิ่มนวลแบบปู่สอนหลาน

ก่อนอื่นจะต้องสรุปความเห็นว่า...

การที่คุณพิชัยซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคออกมาวิพากษ์วิจารณ์นั้น เป็นเพราะคุณพิชัยอดรนทนต่อไปไม่ไหวที่คณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดปัจจุบัน...แสดงบทบาททางการเมืองที่เสื่อมความนิยมในสายตาของประชาชน จนพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า และนับวันจะเสื่อมทรุดลงไป

คุณพิชัยกล่าวว่า...พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนสมัยเก่าที่มีจุดยืนต่อต้านระบบเผด็จการทางทหาร ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยเต็มที

“การตั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ในดงทหาร เป็นการทำลายอุดมการณ์ และจุดยืนของ ปชป.ที่ปู่ย่าตายายสร้างมา”
“มันเจ็บปวดมากที่ ปชป.เปลี่ยนไป”

คุณพิชัยยืนยันว่า...สมาชิก ปชป. เลือกนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคไม่ผิด แม้แต่ในขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ยังเหมาะสมทุกอย่าง ยังเป็นหัวหน้าพรรคได้

“แต่ต้องปรับปรุงตัวเขาเอง โดยข้อเสียของนายอภิสิทธิ์ คือ ไม่รู้จักใช้คน และนอกจากใช้คนไม่เป็นแล้ว ยังไม่นำคนเก่าที่มีประสบการณ์มาเป็นที่ปรึกษาตัวเองบ้าง”

นั่นเป็นความเห็นของ คุณพิชัย รัตตกุล

แต่สำหรับ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพรรคประชาธิปัตย์มองต่างออกไป
“ปัญหาของประชาธิปัตย์อยู่วัฒนธรรมองค์กรของพรรค คิดว่าวัฒนธรรมของพรรคสับสนอลวน วิกฤติที่สุดอยู่ที่การขึ้นไปยื้อยุดฉุดกระชากทั้งแขนและตัวประธานสภา ภาพนี้ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะเกิดขึ้นกับประชาธิปัตย์ ถ้าพรรคมีวัฒนธรรมทางการเมืองจะไม่ทำเช่นนี้

ถ้าเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริงพึงต้องรู้ว่าเสียงข้างน้อยย่อมแพ้ เมื่อแพ้แล้วก็ต้องแพ้ ต่อให้เขาชนะด้วยกฎหมายที่มีเจตนาแอบแฝงก็ช่างมัน ประเทศทั้งประเทศต้องเรียนรู้ ประเทศไทยต้องใช้เวลาสี่ปี ไม่ว่าจะกี่ครั้งเพื่อให้ประชาชนเรียนรู้”

อีกมุมมองหนึ่งเป็นมุมมองของคนที่ยืนอยู่ตรงข้าม...เป็นความเห็นของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

“พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าใจพัฒนาการของประชาชนในวิถีทางประชาธิปไตย รากฐานการก่อตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ก็เกิดจากความต้องการจะต่อสู้หักล้าง กับแนวทางการเมืองของ ดร.ปรีดี พนมยงค์ และคณะอยู่แล้ว แนวทางการเมืองของประชาธิปัตย์เป็นอนุรักษ์นิยม วันนี้ประชาชนเดินเลยกรอบความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว วันนี้

เห็นชัดว่าประชาธิปัตย์ตามประชาชนไม่ทัน”

น่าคิดน่ะ...ประชาธิปัตย์ก้าวตามประชาชนไม่ทัน

โดย:ศรี อินทปันตี,บางกอกทูเดย์
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น