--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

ทูตไนจีเรีย ย้ำสัมพันธ์ไทย หวังสานการค้าและลงทุน !!?


นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการที่ H.E. Mr. Chudi Okafor เอกอัครราชทูตไนจีเรียประจำประเทศไทย ได้เข้าพบหารือในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ว่าไนจีเรียยินดีในความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับไทย ซึ่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ไนจีเรีย ได้ครบรอบ 50 ปี ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา จึงเห็นตรงกันว่าทั้งสองฝ่ายควรพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและกระชับความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ไทยและแอฟริกา มีกำหนดที่จะจัดงาน African Day ร่วมกัน เพื่อกระชับและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ระหว่างไทยกับประเทศในแอฟริกา ซึ่งการจัดงานในปีนี้จะเป็นการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี African Union ด้วย นอกจากนี้ ไนจีเรียเสนอให้จัดการประชุมคณะกรรมการร่วม (Joint Commission: JC) ซึ่งจะเป็นเวทีสำคัญในการหารือเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน

ปัจจุบันไนจีเรียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น โดยสนใจประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย และเสนอจัดการประชุม ASEAN-African SUMMIT อีกด้วย

นายบุญทรง ได้แสดงความเห็นด้วยที่จะให้มีการจัดการประชุมทวิภาคีระหว่างไทยและไนจีเรีย รวมทั้งหากต้องการเน้นการหารือด้านการค้าและการลงทุน ก็อาจจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Commission: JTC) ในช่วงการประชุม JC เพิ่มเติม จะได้เกิดประโยชน์สูงสุด

“ไนจีเรียเสนอให้มีความร่วมมือในสินค้าสำคัญ ทั้งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และด้านการค้าบริการ ซึ่งสินค้าที่น่าจะร่วมมือกันได้ ก็อย่างเช่น ข้าว น้ำตาล เครื่องดื่ม สิ่งทอ และอัญมณี โดยเสนอให้มีการจัดทำความตกลงทางการค้า หรือจัดทำความร่วมมือในรูปแบบบันทึกความเข้าใจเป็นรายสินค้า รวมทั้งขอให้ไทยสนับสนุนเรื่องถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาสินค้าเกษตรและการเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วย”

นายบุญทรง กล่าวว่า ทางไนจีเรียยินดีกับความสำเร็จของการจัดงาน Bangkok Gems& and Jewellery Fair เมื่อปีที่ผ่านมา และเห็นว่าไทยและไนจีเรียน่าจะร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไนจีเรีย เนื่องจากไนจีเรียเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญ ส่วนการค้าบริการนั้นทั้งไทยและไนจีเรียมีศักยภาพในสาขาการท่องเที่ยว ขณะที่ไทยก็มีศักยภาพในสาขาสันทนาการ และบริการสุขภาพ
ต่อหน้า 2
ปัจจุบันไนจีเรียเป็นผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของไทย ดังนั้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ไทยจะจัดการประชุม Rice convention ณ จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เชิญเอกอัครราชทูตไนจีเรียเข้าร่วมงานดังกล่าว ซึ่งฝ่ายไนจีเรียได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมแล้ว เพราะสนใจข้าวจากไทย

นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่าไนจีเรียเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคแอฟริกา ในปี 2555 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1,455.91 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.34 คิดเป็น ร้อยละ 0.31 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามาตลอด ไทยส่งออกสินค้าไปไนจีเรีย คิดเป็นมูลค่า 935.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องดื่ม เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้

ทั้งนี้ ไทยนำเข้าสินค้าจากไนจีเรีย มีมูลค่า 519.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 51.38 สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ด้ายและเส้นใย สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักและผลไม้

ที่มา.สยามธุรกิจ
///////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น