การจากไปอย่างเป็นนิรันดร์ของ “ชุมพล ศิลปอาชา” รองนายกฯ และ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ก่อให้ เกิดแรงกระเพื่อมตามมาโดยอัตโนมัติ เป็นเหตุผลให้เก้าอี้เสนาบดีถึง 2 ตำแหน่ง ได้ว่างลง..จนเป็น “เงื่อนไข” ที่นำไปสู่คิวปรับ คณะรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ 4” ในโควตาของพรรคชาติไทยพัฒนา... “มังกรเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ประธาน ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้ลงรักปิดผนึกรายชื่อเสนาบดีคนใหม่ ส่งถึงมือ “นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไปแล้วพักใหญ่ รอแค่วัน ว. เวลา น. ที่รัฐบาลเพื่อไทย จะได้ฤกษ์ปรับกันเมื่อไหร่?!! ซึ่งความเป็นไปได้สำหรับคิวปรับ ครม. เที่ยวล่าสุด หากปรับเฉพาะโควตาของ “ชาติ ไทยพัฒนา” ก็คงกินเวลาไม่นานสักเท่าไร.. แต่หากเป็นการปรับใหญ่ คงต้องรอให้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จบสิ้นไปก่อน ซึ่งเท่ากับ ว่าปาเข้าไปหลังวันที่ 3 มีนาคม เพราะหาก ปรับแบบผิดฝาผิดตัว หรือทำให้ซีกมวลชนที่เป็นผนังทองแดง..กำแพงเหล็กของ “รัฐบาล พรรคเพื่อไทย” เกิดอาการไม่พอใจ ย่อมจะ ส่งผลกระทบไปถึง “ฐานคะแนนเสียง” ในกรุงเทพฯ ที่โพลหลายสำนักชี้ตรงกันว่า “พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ” ผู้ท้าชิงสังกัด ค่ายเพื่อไทย กำลังมีคะแนนนิยมนำ “ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร” แชมป์เก่าจากค่ายประชาธิปัตย์
ถ้าสมมติฐานด้วย “เงื่อนเวลา” ว่ากันว่า..คิวปรับเล็กหรือปรับใหญ่ น่าจะขยับ ไปหลังวันเลือกตั้ง 3 มีนาคม ซึ่งเท่ากับว่าเหล่านักวิ่งยังมีเวลาเหลือพอให้ล็อบบี้ก่อนจะถึง “วาระตกผลึก”...!!!
ด้วยท่าทีและเสียงเรียกร้องให้มีการปรับ ครม.แบบปัจจุบันทันด่วน ผ่านแรงเขย่า ของ “บรรหาร” ก็ดูเหมือนไม่อาจทำให้ “ปู..เปลี่ยนใจ” เพราะการปรับหนนี้ย่อมมิใช่ความต้องการของข้างพรรคเพื่อไทย หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง..ต่อนายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่คงทอดเวลา “ปรับทัพเสนาบดีใหม่” ยาวนานจนน่าผิดสังเกต สอดรับกับจังหวะที่ “ยิ่งลักษณ์” รวมไปถึง “ระดับนำ” ในค่ายเพื่อไทยเอง พยายาม จะใช้ “ความไม่ปกติ” จากสถานการณ์ไฟใต้ มาเป็น “ข้ออ้าง” ยื้อเกมปรับ ครม. “ปู 4” กรองสถานการณ์ล่าสุดในคิวปรับ ครม.หนนี้ “นายใหญ่” แห่งค่ายชาติไทยพัฒนา ได้กางโผ “รัฐมนตรีใหม่” เสียบเข้า ไปแทนโควตาเดิม ที่ว่ากันว่า “สมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเด็กในคาถาที่ “บรรหาร” ไว้วางใจยิ่ง..จะถูกส่งขึ้นไปยึดเก้าอี้ รมว.กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ส่วน “ยุคล ลิ้มแหลมทอง” รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะควบตำแหน่งรองนายกฯ
กระนั้น เมื่อโผเสนาบดีใหม่ส่งไปสู่มือ “ยิ่งลักษณ์” ปรากฏว่าชื่อของ “สมศักดิ์” โดนตีกลับแบบเฉียบพลัน ซึ่งข่าววงในหลุด มาว่า...“ไวทยากรแห่งรัฐนาวา” อย่าง “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”...ไม่เอาด้วย!!! พร้อมกำชับให้มีการ “เปลี่ยนตัว” ให้บุคคลอื่นเข้ามานั่งเก้าอี้ “ว่าการท่องเที่ยวและกีฬา” คนใหม่ ว่าไปถึงเหตุผลที่ “ทักษิณ” คัดค้านโผรัฐมนตรีใหม่ของ “ชาติไทยพัฒนา” อาจเป็นเพราะ “สมศักดิ์” ถือเป็นสายตรงของ “บรรหาร” ทำให้พรรคเพื่อไทยเข้าไป “สั่งการ” ได้ยากลำบาก ยิ่งที่ผ่านมา “สมศักดิ์” ก็ไม่เคยติดต่อใกล้ชิดกับ “คนในเพื่อไทย” มาก่อนเลย ดังนั้น อาจทำให้เกิดปัญหาในเรื่องการประสานงาน
ยิ่งเมื่อรู้ข่าวว่า “โผเสนาบดี” ถูกตีกลับ..แว่วมาว่า “บรรหาร” ถึงกับหัวเสีย แต่ก็ต้องยอมกลืนเลือด เพราะ “ชาติไทยพัฒนา” ไร้ซึ่งอำนาจต่อรองอย่างสิ้นเชิง จึงจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนโผใหม่ โดยรายชื่อแรกๆ นั้น ได้มีการทาบทาม “สุวัตร สิทธิหล่อ” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้มารับตำแหน่ง “รัฐมนตรี” กระทรวงเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ “สุวัตร” เคยปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะไม่อยากลาออกจากราชการเพื่อเข้ามาสู่การเมือง เช่นเดียวกับ “แผนฉุกเฉิน” ของ “มังกรเติ้ง” หากปลัดสุวัตร ยืนกรานไม่รับตำแหน่งนี้ ก็พร้อมเสนอชื่อ “สมบัติ คุรุพันธ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งน่าจะเข้าทาง “เพื่อไทย” มากกว่า.. เพราะ “สมบัติ” เป็นที่รู้กันดีว่า ปูมหลังมีความใกล้ชิด “ทักษิณ” เป็นอย่างมาก เป็นความพยายามยิ่งยวดของ “พรรค ชาติไทยพัฒนา” ที่ปล่อยรายชื่อ “รัฐมนตรีใหม่” ผ่านสื่ออย่างจงใจ แต่กลับดูเหมือนว่า สิ่งที่ “บรรหาร” เรียกร้องยังไม่ได้รับการสนองตอบแต่อย่างใด
กระทั่งล่าสุดได้ปรากฏข่าวว่า “บรรหาร” ถึงขั้นลงทุนบินไปเจรจากับ “ทักษิณ” ด้วยตัวเองมาแล้ว พร้อมหนีบ “โผรัฐมนตรีใหม่” เข้าไปต่อรอง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงนิ่งสงบ ด้วยสถานการณ์เช่นที่ว่านี้ แน่นอนว่าถ้า “มังกรเติ้ง” ยิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อยาว นานออกไปมากเท่าใด การเผชิญแรงบีบจาก ขั้วแกนนำรัฐนาวาย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น จน ส่งผลต่อ “เสถียรภาพ” ของ “ชาติไทยพัฒนา” ที่กำลังถูกลดบทบาทในรัฐบาลไปทุกทีๆ...!!! ประจวบเหมาะกับกระแสข่าวที่ “พรรคภูมิใจไทย” พร้อมเปิดตำนาน “งูเห่ากลับใจ..” ขอกลับเข้าร่วมรัฐบาล
ในพลันที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บินไปเคลียร์ใจกับ “ทักษิณ” ที่ฮ่องกง เมื่อไม่นานมานี้ ก็ยิ่งกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกนำมายึดโยงกับคิวปรับ ครม.ในโควตาของ “ชาติไทยพัฒนา” ยิ่งระยะหลังตัวเลขหุ้นของ “ซิโนไทย” ในตลาดหลักทรัพย์ฯ พุ่งขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพียงแค่ 3 เดือน จากสิบกว่าบาท ก็ทะยาน ไปแตะที่ 27 บาท ที่ว่ากันว่า...มาคู่ขนานกับ “สัมปทาน” ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเป็นมรรคผล เหล่านี้ยิ่งไป “เพิ่มน้ำหนัก” ให้ข้อมูลดังกล่าวอยู่ในระดับที่น่าเชื่อถือได้
ล่าสุดก็เป็น “วัฒนา เมืองสุข” อดีต รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ ที่หลุดกลางวงสัมมนา “นิรโทษกรรม” ที่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะเข้าร่วมรัฐบาล?!! หลุดกลางวงไม่เท่าไหร่...แต่ที่หลุดนอกวงคือ “เสี่ยแม้ว” กับ “เสี่ยหนู” คุยกัน ถึงขั้นจะยุบรวมพรรคแล้วบริหารประเทศแบบพรรคอัมโนของมาเลเซีย ที่มีการจัดการ บริหารผลประโยชน์แบบ “กลุ่ม ก๊วน มุ้ง วัง” ในลักษณะรัฐบาลพรรคไทยรักไทยในอดีตที่ “แบ่งแยกชัดเจน” นั่นยิ่งทำให้สังคมเข้าใจว่าสถานการณ์ ของ “ภูมิใจไทย” สั่นไหวสั่นสะเทือนไปถึง “ที่ยืน” ในรัฐบาลของ “ชาติไทยพัฒนา” โดยสาเหตุสำคัญที่ “อนุทิน” พยายาม ขอเข้าร่วมขบวน “ปู 4” ก็ล้วนเป็นเรื่อง “ธนกิจการเมือง” ของ “กลุ่มซิโนไทย” ที่ทับซ้อนไปกับ “อำนาจทางการเมือง”
การเข้าร่วมครั้งนี้ของพรรคภูมิใจไทย ว่ากันว่าไม่มีการต่อรองขอกระทรวงใหญ่เหมือนที่เคยเป็นมา เพราะปมมันถูกเชื่อมโยงไว้กับเกมธุรกิจที่ “อนุทิน” ต้องใช้ความพยายามยิ่งยวดในการรักษาพรรค และธุรกิจของตัวเองเอาไว้ บทเรียน “รถไฟฟ้าสายสีแดง” ถูก คู่แข่งอย่าง “อิตาเลียนไทยฯ” ตัดหน้าไปได้ มันล้วนมีผลกระทบทางธุรกิจโดยตรง การพ่ายแพ้อย่างเจ็บแสบครั้งนี้ ล้วน เป็นเหตุผลสำคัญที่ “ภูมิใจไทย” ต้องการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะหากมองไปข้างหน้าในกรณีที่มีแนวโน้มว่า “รัฐบาลเพื่อไทย” จะอยู่ยาว...หากนกดีไม่เลือกกิ่งเกาะ!! ก็มีความ เป็นไปได้เช่นกัน ที่การประมูลเมกะโปรเจกต์ ในอนาคต “กลุ่มชิโนไทย” อาจต้องแพ้พ่ายซ้ำแล้วซ้ำอีก หาก “กลุ่มซิโนไทย” อยู่ไม่ได้ “พรรค ภูมิใจไทย” ก็คงอยู่ลำบาก...ท่ามกลาง “แรงเหวี่ยง” ทางการเมืองที่คละคลุ้งไปด้วย “ปัจจัย” ที่ว่าด้วย “ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ” เมื่อถึงคราวปรับ ครม.เมื่อไหร่...ยิ่งต้องลุ้นระทึก!!!
ที่มา.สยามธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น