ที่สโมสรราชพฤกษ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่ า ไม่เคยได้รับการติดต่อทาบทาม พูดคุย หรือเชื้อเชิญจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน
หรือกลุ่มวาดะห์ ให้เข้าไปดูแลงานด้านความมั่นคงให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน อย่างที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ แต่ยอมรับว่าพร้อมที่จะช่วยงานความมั่นคงของประเทศชาติ โดยไม่มีจำเป็นต้องมีตำแหน่งในรัฐบาลก็ได้ แต่หากรัฐบาลมีการติดต่อ ทาบทามมาจริง ก็ต้องมาหารือกันว่าจะตอบรับหรือไม่ อย่างไร
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนพร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่ทำมาเราเคยทำงานในพื้นที่กันมา 30-40 ปีแล้ว ทุกอย่างก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา แต่ความสัมพันธ์เรายังเหมือนเดิม แน่นแฟ้นมากกว่าเดิมด้วย นั่นเพราะงานด้านความมั่นคงมีความสำคัญที่จะละเว้น หรือละเลยไม่ได้ แม้จะไม่อยู่ในตำแหน่ง แต่ก็สามารถช่วยงานได้ ที่ผ่านมาก็มีข่าวออกมาเยอะเหลือเกิน บางทีก็ดี บางทีก็ไม่ดี อาจเสียหายทั้ง 2 ฝ่ายได้
ส่วนตแนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้ ที่รัฐบาลไปพูดคัยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า มองว่ารัฐเดินมาถูกทางหรือไม่ ว่า มันมี 2 ทางคือ แนวทางรุนแรง กับอีกอันแนวทางสันติ ในเมื่อมาแนวทางสันติก็ถูกแล้ว เมื่อเริ่มแล้วก็ไม่เป็นไร ต่อไปก็ช่วยกันตกแต่ง เราก็ช่วยกันดู ก็จะไปได้ บางคนบอกว่ามีเรื่องเยอะ ก็ไม่เป็นไรค่อยๆ แก้ไปที่ละข้อทีละประเด็น ฉะนั้น ก็ทำมาถูกแล้วต้องให้กำลังช่วยกันส่วนที่เกรงกันว่า ถ้าไปยอมรับการมีตัวตนของกลุ่มต่างๆ หลายฝ่ายอาจเข้ามายุ่งย่ามในประเทศได้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จะให้เขาเข้ามาได้อย่างไร ประเทศเรามีอธิปไตย ไม่ใช่อยากเข้ามาก็เข้ามาได้ ทำไม่ได้หรอก เราก็ตระหนักดี ถามหน่อย มีประเทศไหนที่ให้อิสระกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมมากเท่าไทยเรา อย่างกรณีผ้าคลุมหน้าชาวมุสลิม ขนาดประเทศฝรั่งเศสที่บอกว่ามีความเป็นประชาธิปไตย ยังทำไม่ได้เลย เราก็ต้องมีการพูดจาทำความเข้าใจกัน แน่นอนที่สุดคนที่เป็นหนุ่มสาวของเขาอาจมีแนวความคิดกระตือรื้อร้น กู้ชาติ แบ่งแยกดินแดน แต่เราก็ต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับเขา ไม่มีอะไรหรอก อดทนนิดหนึ่งมาถูกทางแล้ว ใกล้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง มีกลุ่มคนบางกลุ่มใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีผลประโยชน์ในพื้นที่ และพยายามอาจหวังผลให้การเจรจากับบีอาร์เอ็นไม่ประสบผลสำเร็จอยู่เหมือนกัน แต่เชื่อเถอะ สิ่งไหนไม่ดีอยู่ไม่ได้หรอกในสังคมของเรา มันก็มีสิ่งที่เป็นผลประโยชน์อยู่บ้าง เราต้องช่วยกันแก้ไข ส่วนตัวเชื่อว่าการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ คงใช้เวลาไม่นานนับจากนี้ เพราะเห็นว่ามาถูกทางแล้ว
ส่วนตแนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้ ที่รัฐบาลไปพูดคัยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า มองว่ารัฐเดินมาถูกทางหรือไม่ ว่า มันมี 2 ทางคือ แนวทางรุนแรง กับอีกอันแนวทางสันติ ในเมื่อมาแนวทางสันติก็ถูกแล้ว เมื่อเริ่มแล้วก็ไม่เป็นไร ต่อไปก็ช่วยกันตกแต่ง เราก็ช่วยกันดู ก็จะไปได้ บางคนบอกว่ามีเรื่องเยอะ ก็ไม่เป็นไรค่อยๆ แก้ไปที่ละข้อทีละประเด็น ฉะนั้น ก็ทำมาถูกแล้วต้องให้กำลังช่วยกันส่วนที่เกรงกันว่า ถ้าไปยอมรับการมีตัวตนของกลุ่มต่างๆ หลายฝ่ายอาจเข้ามายุ่งย่ามในประเทศได้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จะให้เขาเข้ามาได้อย่างไร ประเทศเรามีอธิปไตย ไม่ใช่อยากเข้ามาก็เข้ามาได้ ทำไม่ได้หรอก เราก็ตระหนักดี ถามหน่อย มีประเทศไหนที่ให้อิสระกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมมากเท่าไทยเรา อย่างกรณีผ้าคลุมหน้าชาวมุสลิม ขนาดประเทศฝรั่งเศสที่บอกว่ามีความเป็นประชาธิปไตย ยังทำไม่ได้เลย เราก็ต้องมีการพูดจาทำความเข้าใจกัน แน่นอนที่สุดคนที่เป็นหนุ่มสาวของเขาอาจมีแนวความคิดกระตือรื้อร้น กู้ชาติ แบ่งแยกดินแดน แต่เราก็ต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับเขา ไม่มีอะไรหรอก อดทนนิดหนึ่งมาถูกทางแล้ว ใกล้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง มีกลุ่มคนบางกลุ่มใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีผลประโยชน์ในพื้นที่ และพยายามอาจหวังผลให้การเจรจากับบีอาร์เอ็นไม่ประสบผลสำเร็จอยู่เหมือนกัน แต่เชื่อเถอะ สิ่งไหนไม่ดีอยู่ไม่ได้หรอกในสังคมของเรา มันก็มีสิ่งที่เป็นผลประโยชน์อยู่บ้าง เราต้องช่วยกันแก้ไข ส่วนตัวเชื่อว่าการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ คงใช้เวลาไม่นานนับจากนี้ เพราะเห็นว่ามาถูกทางแล้ว
ที่มา.นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
///////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น