--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กกต.ต้องเอาจริง : เชือดโพลล์เลือกข้าง !!?


การประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตของนายมานิจ สุขสมจิตร์สื่อมวลชนอาวุโส ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งมานานกว่า 30 ปี เนื่องจากอับอายต่อกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำโพลล์แบบชี้นำรับใช้ฝ่ายการเมืองอย่างไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการของสวนดุสิตโพลถือเป็นเรื่องใหญ่และสะท้อนให้เห็นถึงข้อน่ากังขาในความไม่ชอบมาพากลสำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมที่เริ่มมีมากขึ้นทุกขณะเกี่ยวกับพฤติกรรมของโพลล์บางสำนักที่ถูกจับตาตั้งข้อสงสัยว่าเป็น “โพลล์โสเภณี” หรือ “โพลล์รับจ้าง”

นายมานิจ ในวงการสื่อมวลชนแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์อาชีพอาวุโสซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในฐานะสื่ออาวุโสที่มีประวัติใสสะอาด ซื่อสัตย์สุจริตยึดมั่นในจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสื่ออย่างเคร่งครัดมาตลอดหลายสิบปีที่ทำอาชีพนี้โดย นายมานิจ จบการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ และทำงานหนังสือพิมพ์มาตลอดจนเข้าสู่วัยชรา เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมายนับไม่ถ้วนรวมทั้งตำแหน่งอดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และอดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ อาจารย์พิเศษด้านสื่อสารมวลชนและเคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสำคัญมาแล้วมากมาย การลาออกจากนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการหมดความอดทนต่อพฤติกรรมของสวนดุสิตโพลได้เป็นอย่างดี

สวนดุสิตโพลถูกตั้งข้อสงสัยมานานในพฤติกรรมส่อไปในทางรับใช้พรรคการเมืองบางพรรคโดยเฉพาะในศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งล่าสุดนี้สวนดุสิตโพลถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำโพลล์แบบชี้นำช่วยเหลือผู้สมัครจากบางพรรค และข้อน่าสงสัยก็คือ นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ผู้อำนวยการของสวนดุสิตโพล ได้รับจ้างจัดทำโพลล์โครงการสานเสวนา 108 เวทีของกระทรวงมหาดไทย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนสูงถึง 108 ล้านบาท นอกจากนี้ นายสุขุม ยังได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา

นอกจากนี้ยังมีข้อน่าสังเกตว่า หลังสวนดุสิตโพลตกเป็นข่าวอื้อฉาวพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทยออกมาแก้ต่างแทนสวนดุสิตโพลในทันทีว่าโพลล์ไม่มีผลต่อการชี้นำ

ไม่เพียงสวนดุสิตโพล สำนักโพลล์ชื่อดังอย่างเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญที่มี นายนพดล กรรณิกาเป็นผู้อำนวยการก็ถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องการชี้นำศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ตลอดจนพฤติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา

การที่ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กทม. ออกมาเตือนการทำโพลล์ในลักษณะชี้นำไม่เป็นกลางพร้อมทั้ง คาดโทษว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งซึ่งมีโทษทางอาญาและล่าสุดเตรียมเรียก นายสุขุม มาชี้แจงต่อกกต.กทม.น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า กกต.เอาจริงกับการทำโพลล์ที่มีเบื้องหลังผลประโยชน์ แอบแฝงจนทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์และยุติธรรม

อย่างไรก็ตามแค่การปรามคงไม่เพียงพอ แต่ประธานกกต.กทม.ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ใช่เป็นแค่เสือกระดาษ แต่ต้องเอาจริงด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินของเจ้าสำนักโพลล์ทุกสำนักที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยในเชิงลึกอย่างเข้มข้นและให้อธิบายที่มาของทรัพย์สิน ซึ่งหากพบทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่ชอบก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้โพลล์ชั่วร้ายประเภท “โสเภณี” หรือ “มือปืนรับจ้าง” ได้ใจหากินสร้างความร่ำรวยกับนักการเมืองเลวโดยไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพและทรยศต่องานทางวิชาการ

ที่มา.นสพ.แนวหน้า
----------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น