ในจำนวนนี้ แยกเป็นใบอนุญาตประเภทช่องรายการ ในกลุ่มช่องทีวีดาวเทียม และช่องรายการในเคเบิลทีวีรวม 301 ใบอนุญาต และใบอนุญาตโครงข่ายเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม ทั้งระดับชาติ ภูมิภาค และท้องถิ่น รวม 331 ใบอนุญาต และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาใบอนุญาตทั้ง 2 ประเภทรวมกันอีกราว 400 ราย
เฉพาะทีวีดาวเทียม เมื่อตรวจสอบรายชื่อ ก็พบว่าเป็นช่องรายการที่มีอยู่แล้ว ซึ่งได้ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไทยคม 5 และดาวเทียม NSS6
หลังจากนี้ ประเทศไทยจะไม่มีทีวีดาวเทียมเถื่อน เคเบิลทีวีเถื่อน และผู้ได้รับใบอนุญาตจะต้องนำเสนอเนื้อหาภายใต้หลักเกณฑ์ กสทช.กำหนด
ตรงจุดนี้ ทีวีดาวเทียมอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "ทีวีการเมือง" ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีนักวิชาการสื่อสารมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นสื่อเลือกข้างหรือสื่อปลุกระดมมวลชน
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ช่องทีวีดาวเทียมกลุ่มการเมืองทุกช่องได้รับใบอนุญาตครบทุกราย ซึ่งจะต้องไม่นำเสนอเนื้อหาที่เข้าข่ายยุยง ทำให้สังคมเกิดความแตกแยก
โดย กสทช.จะมีหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน และจะมีหน่วยงานมอนิเตอร์การนำเสนอเนื้อหาของช่องทีวีดาวเทียมที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้วทุกช่อง หากพบว่ากระทำผิดหลักเกณฑ์ จะถูกพิจารณาเป็นลำดับขั้นคือ ตักเตือน ระงับ และพักใช้ใบอนุญาต
ช่องรายการทีวีการเมืองที่ได้รับใบอนุญาตล็อตแรก ประกอบด้วย ช่องบลูสกาย แชนแนล ดำเนินการโดยบริษัท บลูสกาย แชนแนล จำกัด เป็นทีวีดาวเทียมเกิดใหม่ และได้รับความนิยมสูงทางภาคใต้ ซึ่งชาวบ้านร้านถิ่นเรียกกันว่า "ช่องอภิสิทธิ์"
อีกช่องหนึ่งคือ ช่องดีเอ็นเอ็น (ช่องเอเชียอัพเดท) ของบริษัท เดโมเครซี นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ที่มีเรตติ้งสูงสุดในกลุ่มช่องข่าว จากการสำรวจเฉพาะจานดำ "พีเอสไอ" สำหรับคนเสื้อแดงจะรู้จักช่องนี้ในนาม "จอแดง" หรืออีกฟากฝ่ายหนึ่งอาจเรียกว่า "ช่องทักษิณ"
ช่องเอเอสทีวีนิวส์วัน ของบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด ถือว่าเป็นสถานีแรกที่สร้างปรากฏการณ์ "สื่อเลือกข้าง" ที่โด่งดังและจุดกระแสความนิยมการรับชมทีวีดาวเทียม ระหว่างปี 2548-2549
คาดว่าช่องทีนิวส์ ,ช่อง 13 สยามไท, ช่องเอฟเอ็มทีวี, ช่องพีแอนด์พี และช่อง 4 ทีวีประชาชน ต่างก็เป็นกลุ่มทีวีการเมือง คงได้รับใบอนุญาตในคราวต่อไป
สิ่งที่นักวิชาการสื่อกำลังเฝ้ามองจากนี้ไป ก็คือการกำกับดูแลเนื้อหาทีวีมีสีเหล่านี้ ของ กสทช. เพราะทีวีช่องดังกล่าว มีจุดยืนชัดเจนว่านำเสนอข่าวสารตอบสนอง "มวลชน" ฝักฝ่ายของตัวเองเป็นสำคัญ
ที่น่าสนใจจากการวัดเรตติ้งของจานดำพีเอสไอ ก็ต้องเข้าใจว่าผู้ชมจานดำร้อยละ 80 อยู่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะนอกเขตเทศบาล จึงไม่แปลกที่ช่องเอเชียอัพเดท จะเป็นช่องข่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะอิงไปกับฐานมวลชนคนเสื้อแดงในชนบทภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน
อย่างเช่น "ช่อง 4 ทีวีประชาชน" ที่เพิ่งออกอากาศปีที่แล้ว ก็มีเรตติ้งติดอันดับความนิยมเหนือช่องทีวีแนวบันเทิงหลายช่อง เนื่องจากทีวีช่องนี้มี "วิทยุชุมชน" ทั่วประเทศเป็นฐานให้การสนับสนุน
แม้แต่ช่องเอเอสทีวีนิวส์วัน ที่ออกอากาศผ่านดาวเทียม NSS6 ก็ยังได้รับความนิยมในเขตหัวเมืองและเขตเทศบาล อันเป็นฐานมวลชนคนเสื้อเหลือง
นี่คือลักษณะพิเศษของช่องทีวีการเมืองบ้านเรา อันจะเป็นความยากลำบากของ กสท.ในการกำกับดูแลเนื้อหาอย่างแน่นอน
.......................................
(หมายเหตุ ทีวีมีฐานมวลชน : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย.... บรรณวัชร.คมชัดลึก )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น