--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ชำแหละหนี้สาธารณะ : เราคงแก่ก่อนรวย !!?


สมชัย จิตสุชน ผอ.วิจัยการพัฒนา อย่างทั่วถึง กล่าวถึงเรื่องหนี้สาธารณะว่า โดยแนวคิดแล้ว หนี้สาธารณะเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อการลงทุนในระบบสวัสดิการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดูแลประชาชน แต่ต้องบริหารให้มี “พื้นที่การ คลัง” มากพอเพื่อรองรับความจำเป็นหรือวิกฤติในอนาคต โดยแนวทางการบริหารหนี้สาธารณะนั้น ทำได้โดยการ 1.เพิ่มรายได้รัฐ ทั้งการจัดระบบภาษีอัตราก้าวหน้า เพิ่มฐานภาษีใหม่ๆ เช่น ภาษีทรัพย์สิน 2.การวางแผนการใช้จ่าย อย่างระมัดระวัง นโยบายประชานิยมที่ พรรคการเมืองทำนั้นไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่ ในเมื่อจะเสียเงินทั้งทีก็ควรเป็นไปเพื่อ ให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำที่แท้จริง 3.บริหารหนี้สาธารณะอย่างโปร่งใส มีการวางแผน 5 ปีเป็นอย่างน้อย

สำหรับผลการประมาณการหนี้สาธารณะในช่วง 5 ปีข้างหน้านั้น สมชัย ระบุว่า หนี้สาธารณะในช่วง 5 ปีข้างหน้า ที่จะอยู่ที่ 70-80% ของจีดีพี ซึ่งเป็นกรณี ที่แย่ที่สุดและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวมากกว่า 4% ซึ่งเป็นค่าที่ตั้งสมมติฐานไว้ โดยสัดส่วนหนี้นี้ คำนวณรายจ่ายจากความสามารถในการคุมรายจ่ายประจำที่ระดับการขยายตัว 7 และ 10% (เฉลี่ยในอดีตปี 33-56 อยู่ที่ 9.7%), โครงการพิเศษต่างๆ ที่จะเกิดในช่วง 5 ปี ไม่ว่าจะเป็นการขาดทุนจากโครง การรับจำนำข้าว-การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AEC-การลงทุนป้องกันน้ำท่วม-การลดลงของภาษีนิติบุคคลตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงนโยบายพิเศษอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ หนี้สาธารณะของไทยมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากโครงการพิเศษที่ใช้งบประมาณมากแล้วยังเป็นเพราะแม้ในภาวะปกติ การคลังไทยก็มีโครงสร้างขาด ดุลโดยพื้นฐานอยู่แล้ว และยังมีภาระดอกเบี้ยทับถม การควบคุมรายจ่ายประจำจะมี ผลช่วยควบคุมการเพิ่มของหนี้สาธารณะได้ค่อนข้างดี

ภายใต้หนี้สาธารณะที่จะเกิดขึ้นนี้ ยังมีแนวทางการบริหารโอกาสเพื่อไม่ให้หนี้สูงเกินไปได้ เช่น การลงทุนโครงสร้าง พื้นฐาน 2 ล้านล้านจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจ ขยายตัว (อาจถึง 6%) ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้หนี้สาธารณะเพิ่มเกิน 60% จึงควรบริหารจัดการให้งบส่วนนี้เกิดประสิทธิภาพ สูงสุด และควรมีมาตรการอื่นๆ เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง เช่น การพัฒนาแรงงาน พัฒนา เทคโนโลยี

ส่วนแนวโน้มหนี้สาธารณะในระยะยาวกรณีที่ไทยหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ ปานกลาง โดยมีจีดีพีโต 6% ต่อเนื่องทุกปี กราฟของหนี้สาธารณะก็จะดิ่งหัวลงมาอยู่ที่ 20-40% ของจีดีพีเท่านั้น ซึ่งโดยทิศทางแล้วมีความเป็นไปได้ไม่มากนักและขึ้นอยู่กับความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอาจปรับตัวขึ้นภายใน 2 ปีข้างหน้า (จากปัจจุบันที่ติดลบ อยู่) ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา ประกอบกับรัฐยังไม่มีแผนการปรับระบบภาษีที่ควรจะเป็น ดังนั้น ข้อเสนอแนะสำหรับช่วงนี้ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้นคือ การควรมี “พื้นที่การคลัง” เพิ่มขึ้นในระยะ 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากยังมีความเสี่ยงหลายด้าน โดยแนวทางเพิ่ม พื้นที่การคลังที่เป็นรูปธรรมคือ พิจารณา ปรับลดโครงการพิเศษที่ใช้งบประมาณสูง เช่น โครงการรับจำนำข้าว, คุมการขยาย ตัวของรายได้ประจำ, ปรับเพิ่มภาษีบางประเภท เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษี VAT

ภายในไม่กี่ปีข้างหน้าสังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ แต่ด้วยสถานการณ์ ทางการเงินและเศรษฐกิจที่เป็นอยู่นี้ทำให้คาดหวังได้ว่าเราจะหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง และเป็นประเทศ ที่มีรายได้สูง อาจเรียกได้ว่า เราคงแก่ก่อนรวย

ที่มา.สยามธุรกิจ
------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น