--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

จับตารัสเซียครองเมือง : หัวใจอยู่ที่ การบังคับใช้กฎหมาย !!?


โดย รัตนา จีนกลาง

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ

เหตุ คุกรุ่นที่กลุ่มผู้ประกอบการชมรมรถแท็กซี่บางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต รวมตัวกันกว่า 150 คน ออกมาประท้วงขับไล่ชาวรัสเซียพ้นเกาะภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2556

นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก

ในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกแห่งนี้

กลุ่ม ผู้ชุมนุมให้เหตุผลว่า ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการที่ชาวรัสเซียเข้ามาแย่งอาชีพของ คนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเข้ามาประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งการนำเที่ยว

รถเช่า ร้านอาหาร ร้านซักรีด และมีทั้งไกด์เถื่อน ทัวร์เถื่อน

ขณะ นี้เฉพาะในพื้นที่บ้านบางเทา มีชาวรัสเซียตั้งเคาน์เตอร์ขายทัวร์แก่นักท่องเที่ยวกว่า 50 แห่ง ทำการขายทัวร์ตัดราคาและสั่งห้ามนักท่องเที่ยวรัสเซียใช้บริการแท็กซี่ของ ชาวบ้าน

ทั้งนี้ผู้ชุมนุมยังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

รวมถึงการให้ชาวรัสเซียออกไปจากพื้นที่ด้วย

แกน นำผู้ชุมนุมบอกว่า ผู้ประกอบการท้องถิ่นยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ รวมถึงรัสเซียด้วย แต่ไม่ต้องการให้คนต่างชาติมาเอาเปรียบด้วยการแย่งอาชีพของคนไทย

เรื่อง นี้ถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการรถตุ๊กตุ๊กที่หาดกะรนก็ออกมาเรียกร้องให้ภาค รัฐเข้าไปดำเนินการกับชาวรัสเซียที่เปิดบริษัททัวร์ และสั่งห้ามนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก

ย้อนไปเมื่อ กลางปี 2551 ก็มีกลุ่มมัคคุเทศก์อาชีพ หรือไกด์ไทยที่ใช้ภาษารัสเซีย รวมตัวกันประท้วงและเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แก้ไขปัญหาไกด์ชาวรัสเซียแย่งงาน

ไกด์ไทย ซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน

โดย ชี้ให้เห็นพฤติกรรมว่า มีชาวรัสเซียเข้ามาเปิดบริษัทนำเที่ยวในไทย โดยใช้ชื่อคนไทยจดทะเบียน หรือเป็นนอมินีบริษัทนำเที่ยว และบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ยอมจ้างไกด์ไทยภาษารัสเซียทำงาน แต่จะจ้างคนรัสเซีย และจ้างไกด์ไทยที่พูดภาษารัสเซียไม่ได้ ไปนั่งในรถทัวร์เฉย ๆ ส่งผลให้ไกด์ไทยที่พูดภาษารัสเซียได้ตกงานและเดือดร้อนมาก อย่างไรก็ตามสภาพเช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับทัวร์เกาหลีเพราะมีปัญหาการสื่อสาร

กรณีประท้วงขับไล่ชาวรัสเซียที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการปะทุขึ้นของปัญหาเพียง

มิติ เดียว มีสภาพคล้ายกับ "ภูเขาน้ำแข็ง" เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ที่ภูเก็ต ยังมีปมปัญหาเรื้อรังอีกหลายอย่างที่รอการเยียวยาแก้ไขอย่างจริงจังจากหน่วย งาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

เนื่อง จากปัจจุบันเกาะภูเก็ตได้กลายเป็นเมืองนานาชาติ เป็นจุดหมายปลายทาง (destination) ของผู้คนจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การค้า/บริการ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (โรงแรม, วิลล่าเศรษฐีต่างชาติ, คอนโดมิเนียม) ซึ่งนักธุรกิจกระเป๋าหนักทั้งจากส่วนกลางและต่างชาติ หอบเงินเข้ามาลงทุนไม่ขาดสายแน่นขนัดเต็มเกาะภูเก็ต

ในยุคแรก ๆ กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนทำบ้านพักตากอากาศ ส่วนใหญ่มาจากอังกฤษ ออสเตรเลีย ฮ่องกง แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาจำนวนมาก ทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุน โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยว

เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากหลักหมื่นเป็นหลายแสนคน เช่น ปี 2553 มีจำนวน 234,628 คน และทะยานสู่อันดับหนึ่งในปี 2555

อีกส่วนหนึ่งก็เข้ามาตั้งบริษัทร่วมกับ

คนไทย ไล่เทกโอเวอร์กิจการโรงแรมระดับ 3 ดาวถึง 5 ดาว ในพื้นที่หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดไม้ขาว เพื่อรองรับชาวรัสเซียโดยเฉพาะ

ล่า สุดมีการกว้านซื้อที่ดินแล้วลงทุนก่อสร้างที่พักขายให้กับชาวรัสเซียด้วยกัน เอง เรียกว่าเป็นโมเดลเดียวกับ "ฝรั่งทำขายฝรั่ง" เพราะข้อจำกัดของชาวรัสเซียคือภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร

ขณะที่นัก ท่องเที่ยวรัสเซียหลายคนที่คุ้นเคยกับคนไทยและเจ้าหน้าที่ไทย ก็ยกระดับตนเองเป็นดีเวลอปเปอร์อสังหาริมทรัพย์ ลงทุนตั้งบริษัทพร็อพเพอร์ตี้ ทำเองขายเอง

ในหมู่คนรัสเซีย เพราะตอนนี้ชาวรัสเซียมีกำลังซื้อสูงมากกว่าชาวยุโรปที่เจอพิษเศรษฐกิจตกต่ำ และนิยมหนีอากาศหนาวมาซื้อบ้านหลังที่ 2 ในภูเก็ตมากขึ้น

แม้จะมีการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทพร็อพ

เพอร์ตี้ ทว่าส่วนใหญ่ก็อยู่ในโหมดของ "นอมินี"

ขณะเดียวกันเมื่อมีชาวรัสเซียมาเที่ยว ส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็จะ

นิยมไปพักในย่านธุรกิจของชาวรัสเซีย

ด้วยกันเอง ฉะนั้นจึงเอื้อให้เกิดการทำ

ธุรกิจนำเที่ยวครบวงจรทั้งด้านที่พักโรงแรม รีสอร์ต บ้านพัก ร้านอาหาร ภัตตาคาร

เรือเช่า ไกด์ ทัวร์ สปา เคเบิลทีวี และสำนักงานตัวแทน (เอเย่นต์) ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรองรับกลุ่มชาวรัสเซียทั่วภูเก็ต

ปัจจุบัน โซนที่ชาวรัสเซียเข้ามาพักอาศัยในภูเก็ต ได้แก่ อ่าวฉลอง ราไวย์ ในหาน ป่าตอง กะตะ และกะรน มีโครงการวิลล่าและธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านการท่องเที่ยว

ผุดเป็นดอกเห็ดแล้ว

ปรากฏการณ์ "รัสเซียครองเมือง" ยังเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเริ่มขยายไปสู่เมืองหัวหินอีกด้วย

คำถามก็คือว่าเราไม่อาจปิดกั้นการลงทุนจากต่างชาติได้ แต่จะทำอย่างไร

ให้ "การบังคับใช้กฎหมาย" จริงจัง โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ มิใช่กระจุกอยู่ในมือของคนบางกลุ่มเท่านั้น

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
++++++++++++++++++++++++

1 ความคิดเห็น:

  1. เมื่อก่อนที่ชาติอื่นเข้ามาในเมืองไทยไม่มีปัญหาใช้ไกด์ไทยเคารพกฎทำตามกฎหมายของบ้านเราแต่พอชาติรัสเซียเข้ามามันไม่เคยเคารพกฏแต่เรายังยอมเงินเงินเงินมันคือคำตอบของพวกคุณ ถึงไม่มีใครสนใจกับคนกลุ่มน้อยต่อไปก็ไม่ต้องเปิดหลักสูตรมัคคุเทศก์แล้วเพราะรัสเซียมันไม่สนที่จะจ้างไกด์ไทยตำรวจไม่จับ ถึงจับได้ก็ไม่ทำ ถ้าทำมันคงไม่เกลื่อนเมืองพัทยา กราบแทบเท้าใครก็ได้ลองดูสิขนาดใบเวิคโพมิท พวกมันยังไม่มีเลย แต่ก็กล้าทำงานได้ ลองเราไปทำแบบนี้ที่ประเทศรัสเซียบ้างคงติดคุกกระมัง

    ตอบลบ