รถไฟความเร็วสูง ไม่ได้สลักสำคัญต่อประเทศไทยในเชิงปริมาณตัวเลข GDP หากเป็นผลกระทบเชิงคุณภาพ ตั้งแต่ธุรกิจแปลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นตามเส้นทางรถไฟฟ้า ไปจนกระทั่งถึงชีวิตผู้คนที่จะเปล่งประกายความคิดสร้างสรรค์และความสุขล้นละมุนละไม
เกษตรกรไทยนับล้านคน วนเวียนจมปลักกับความหวาดกลัวว่า พืชผลที่เพาะปลูกไปจะท่วมล้นตลาดหรือไม่ พ่อค้าคนกลางก็หวั่นวิตกความเสี่ยงว่าพืชผลจะเน่าเสียเท่าไร จนกว่าจะส่งมอบถึงมือผู้บริโภค สุดท้ายจึงต้องกดราคารับซื้อให้ต่ำเข้าไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือ สิ่งที่เกิดขึ้นมาชั่วนาตาปี
หากมีรถไฟความเร็วสูง สถานการณ์จะแปรเปลี่ยนไป
บรรยากาศที่รื่นรมย์ของผืนป่าและท้องนา ย่อมเป็นแรงบันดาลใจให้เกษตรกรสามารถทดลองพันธุ์ข้าวและผลไม้แปลกใหม่ ที่มีรสชาตินุ่มละมุนหวานละไม โดยไม่ต้องกังวลถึงความเน่าเสียและราคารับซื้อที่ต่ำเตี้ยติดดินอีกต่อไป
ผลไม้คุณภาพล้ำเลิศและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ระดับ AAA ซึ่งเกิดจากดิน น้ำ และสภาพอากาศของแต่ละท้องถิ่น ย่อมสามารถผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ เพราะแม้จะมีความต้องการในวงจำกัด (Luxury Demand) แต่เนื่องจากพื้นที่การจำหน่ายขยายกว้างออกไปตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ทำให้การลงทุนเพื่อพัฒนาสายพันธุ์มีความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ได้
ขณะที่ผู้บริโภคในเมือง ซึ่งเบื่อหน่ายกับผลไม้ที่เปรี้ยวเกินไปบ้าง เนียนนุ่มน้อยไปบ้าง ก็ไม่ต้องอดทนบริโภคสินค้าที่ไร้รสนิยมอีกต่อไป เพราะเกษตรกรจะเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีความละเอียดอ่อนของคุณภาพให้ได้ตามใจปรารถนา
นวัตกรรมและความสร้างสรรค์ ที่เคยต้องตีบตันด้วยชีวิตในเมืองที่เร่งรีบ ก็จะได้รับการปลดปล่อย
ประชากรในชนบทที่สูญเสียเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อเข้ามาหาเลี้ยงชีพในเมืองกรุง ย่อมสามารถเดินทางขึ้นรถไฟความเร็วสูง เพื่อกลับบ้านเกิดไปสูดอากาศในท้องนายามโพล้เพล้ แล้วย้อนคืนสู่เมืองกรุงในรุ่งอรุณยามเช้าได้ทันเวลาเริ่มงาน ชีวิตจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังไฟแห่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศ และพลังกระตือรือล้นในการบริการลูกค้าอย่างถึงอกถึงใจ
ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อที่ล้นแน่นไปด้วยสินค้าซ้ำซากจำเจ ร้านอาหารที่มีเมนูให้เลือกลิ้มรสชาติเพียงไม่กี่ชนิด ก็จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงยิ่งยวด เมื่อสินค้าแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีโอกาสได้ผลิตออกมา เพราะต้นทุนการขนส่งที่ไร้ประสิทธิภาพ ก็จะพร้อมเดินเครื่องไปสู่ร้านรวงทุกหนแห่งทั่วแผ่นดินสยาม
สินค้าชั้นดีจะไม่เพียงเป็นความเพ้อฝันที่อยู่ในห้วงสมองของนักประดิษฐ์เท่านั้น หากเป็นจริงได้ด้วยรถไฟความเร็วสูง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคจุกจิกจู้จี้ได้พบเจอกับผู้ผลิตที่ละเอียดอ่อนและช่างประจบเอาใจ
คนไทยมีจิตใจบริการไม่พ่ายแพ้ชาติใดในโลกใบนี้ เพียงแต่ยังไม่มีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่สนับสนุนอย่างเพียงพอ (Business Ecology) ดังนั้น รถไฟความเร็วสูงจึงเป็นเสมือน Supply ที่คอยกระตุ้นให้เกิด Demand ในการบริโภคสินค้าที่ละเมียดละไมใส่ใจลูกค้า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะสามารถเสพรับอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นไทยได้อย่างรื่นรมย์สุขใจ โดยไม่ต้องคอยวิตกกังวลเรื่องการเดินทางที่ทุลักทุเล เพราะมีรถไฟความเร็วสูงที่สะดวกสบายคอยต้อนรับดูแล
รถไฟความเร็วสูง อาจไม่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจากค่าโดยสาร ค่าเช่าจากร้านค้าทั้งที่ตั้งบนตัวรถไฟและสถานี แต่เมื่อรวมราคาที่ดินตามรายทางที่พุ่งสูงขึ้น การเติบโตของ SME ที่ได้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของระบบการขนส่ง แหล่งท่องเที่ยวและโอกาสของธุรกิจเกิดใหม่อีกมากมาย ทั้งหมดนี้จะทำให้รถไฟความเร็วสูงมีความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจระดับชาติ
รถไฟความเร็วสูง ไม่ได้เป็นการกระจายรายได้ให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่เป็นการกระจายโอกาสให้กับคนไทยทุกชนชั้นที่มีความมุมานะในการพัฒนาคุณค่าของตนเอง จะได้บุกเบิกสร้างสรรค์เส้นทางสายใหม่ในการทำมาหากินสร้างชีวิต โดยไม่ขีดจำกัดวงไว้เพียงกลุ่มคนที่มีเงินทุนมหาศาลหรือชาติตระกูลสูงส่ง เหมือนกับที่เคยเป็นมาช้านาน
ที่มา.Siam Intelligence
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น