--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

นายกรัฐมนตรีฝากทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาต่อยอดสินค้า โอท็อป. ให้เป็นความภูมิใจของ สินค้าไทย !!?


นายกรัฐมนตรีระบุรัฐบาลต้องเพิ่มช่องทางการขายสินค้า OTOP โดยการเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าทาง internet และจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ รวมไปถึงจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศ เพื่อพัฒนาต่อยอดการจำหน่ายสินค้า OTOP อย่างถาวร และแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดแบบยั่งยืน

(11 พ.ย.55) เวลา 15.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมมิลาเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพมหานคร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายการดำเนินงานประชุมเชิงปฏิบัติการและชี้แจงคณะกรรมการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ปี พ.ศ.2555 ระดับประเทศ โดยมีนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกรมพัฒนาชุมชน คณะทำงานตรวจและให้ค่าคะแนนการคัดสรรฯ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการคัดสรรฯ ระดับประเทศเข้าร่วมงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงคณะกรรมการดำเนินการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2555 ว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2555 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ OTOP ได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานจนสามารถเชื่อมโยงสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ ซึ่งดำเนินการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2555 ได้ดำเนินการ 2 ระดับ คือ 1.ระดับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่รับสมัครผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรรฯ และตรวจพิจารณาให้ค่าคะแนน ดำเนินการระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2555 และ 2.ระดับประเทศ มีหน้าที่ตรวจพิจารณาให้ค่าคะแนน ดำเนินการระหว่างวันที่ 19 – 28 ธันวาคม 2555 สำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อชี้แจงกรอบแนวทาง และหลักเกณฑ์การคัดสรรฯ โดยภาพรวมการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในภาคเช้าได้มีการแบ่งกลุ่มลงรายละเอียดการตรวจ และพิจารณาให้ค่าคะแนนตามประเภทผลิตภัณฑ์ในภาคบ่าย

นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายชี้แจงคณะกรรมการดำเนินการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2555 ว่า ระยะเวลาทีผ่านมาได้ติดตามการทำงานเพื่อพัฒนาสินค้า OTOP อยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีการริเริ่มมานานกว่า 10 ปี ทำให้ปัจจุบันมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท จากการส่งออกประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ถ้าเราทำงานมากขึ้น มียอดขายมากขึ้น รายได้ของประชาชนและผู้ประกอบการก็เพิ่มขึ้น ซึ่งต้อขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการทุกคนที่มีส่วนช่วยผลักดัน คัดเลือกสินค้า OTOP ที่มีคุณภาพ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้า OTOP ให้ได้รับความนิยม เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างกว้างขวาง ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีความสามารถในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมถึงความสามารถในการประกอบการได้อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการดำเนินโครงการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย รัฐบาลได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อพัฒนาให้มีความชัดเจนเฉพาะกลุ่ม และกลยุทธ์การพัฒนาในภาพรวมทั้งระบบ ดังนี้ 1.กลยุทธ์การส่งเสริมและพัฒนาเฉพาะกลุ่ม จำแนกได้ 4 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มสินค้าดาวเด่นสู่สากล คือกลุ่มสินค้าที่มีคุณภาพสูงมีความต้องการของตลาด มีศักยภาพในการผลิต รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือเรื่องการตลาด และเงินทุน 2) กลุ่มอนุรักษ์สร้างคุณค่า คือกลุ่มสินค้าที่เป็นงานฝีมือ ต้องสั่งสมประสบการณ์ในการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ รัฐบาลต้องยกระดับสินค้าโดยนำมาขายในห้างสรรพสินค้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของสินค้า 3) กลุ่มพัฒนาสู่การแข่งขัน คือสินค้าที่มีคุณภาพปานกลาง ปริมาณปานกลาง รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือด้านการผลิตให้มีคุณภาพสามารถแข่งขันได้ และช่องทางการจัดจำหน่าย และ 4) กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น ตลาด เงินทุน และคุณภาพของสินค้า 2.กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในภาพรวม ประกอบด้วย การขยายช่องทางการตลาดให้หลากหลาย การเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการยกระดับประสิทธิภาพผู้ประกอบการ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมจัดจำหน่ายสินค้า แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ ต้องจัดทำหน้าร้านให้ผู้ประกอบการ โดยการเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าทาง internet และจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ รวมไปถึงการจัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศ เพื่อพัฒนาต่อยอดการจำหน่ายสินค้า OTOP อย่างถาวร และแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดแบบยั่งยืนสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เพื่อการส่งเสริมไปในทิศทางเดียวกันผ่านรูปแบบต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ คือ ต้นน้ำเป็นการจัดหาวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตสินค้า โดยการใช้วัตถุที่มีอยู่ในท้องถิ่น หาง่าย เพื่อประหยัดต้นทุนการผลิต กลางน้ำเป็นการนำสินค้าไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า และปลายน้ำเป็นการจำหน่ายสินค้าโดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย กำหนดผู้ซื้อ และกำหนดราคาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อประสิทธิภาพในการจำหน่ายสินค้า โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาต่อยอดสินค้า OTOP ให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปในทางที่ดีขึ้นทั้งคุณภาพ และยอดขาย เพื่อรายได้ และความมั่งคั่งของประชาชนในท้องถิ่น ให้เป็นความภูมิใจของสินค้าไทยต่อไป

ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
*****************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น