--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วัดกันที่ลูกบ้าไม่กล้า ไม่แรง ก็จบเห่ !!?


ส่งสัญญาณสงครามครั้งสุดท้ายชัดขึ้นเรื่อยๆระหว่างฝ่ายต่อต้านกับลูกข่ายทักษิณ

การเคลื่อนไหวสุดสัปดาห์นี้เป็นอะไรที่น่าติดตามว่าคนไทยจะได้ออกไปลอยกระทงกันอย่างสบายใจหรือไม่

“...ทุกอย่างจะต้องยุติในการชุมนุมวันที่ 24-25 พ.ย. และจะไม่มีการนัดชุมนุมอีกเป็นครั้งที่ 3...”

เป็นเสียงประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำจากแกนนำชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่าง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย

แล้วก็เป็นอะไรที่ต้องเปิดหน้าเล่น เลิกเหนียมอายหลบอยู่หลังฉาก หลังถูกนายห้างดูไบห่อโฟนอินเข้ามาแฉว่ามีส่วนร่วมเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลชุดนี้

พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ออกมายอมรับตรงๆว่าวันที่ 24 พ.ย. จะไปร่วมม็อบขับไล่รัฐบาลที่ลานพระบรมรูปทรงม้าแน่นอน

แม้จะบอกว่าแค่ไปร่วม ไม่ขึ้นเวทีปราศรัย และเป็นการไปในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวอะไรกับประธานองคมนตรี

ที่ไปเพราะความรักชาติ ขอเป็นทหารแก่ที่จะไม่มีวันตายไปจากการรักชาติบ้านเมือง ห่วงใยกองทัพ ปกป้องสถาบัน แต่ก็ห้ามความคิดของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ว่าอาจมีความผูกโยงไปถึงตัวประธานองคมนตรี

ประหนึ่งว่า “มองพะจุณณ์เห็นป๋าเปรม” ยังไงยังงั้น

ยิ่งเจ้าตัวออกงานนั่งเล่นเปียโนโชว์ลูกคอร้องเพลงชิลๆในอารมณ์ ทำให้ใครหลายคนนึกย้อนไปถึงวันเก่าๆ เพราะนี่มันซีนคุ้นๆเหมือนเคยเห็นทุกครั้งก่อนมีการโค่นล้มเครือข่ายทักษิณ

การเมืองนอกสภาได้เวลาเปิดหน้าเล่น ใครเป็นใคร คิดอะไร อย่างไร ได้เห็นกันชัดเจน

หันไปมองการเมืองในสภาก็ช่างเหมาะเจาะ ช่วยปั่นอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา บรรจุญัตติซักฟอกรัฐบาลของ ส.ว. เครือข่ายการเมืองนอกสภาให้ได้อภิปรายกันในวันที่ 23-24 พ.ย. นี้

ตรงกับการชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาลพอดิบพอดี

หมดจากการอภิปรายของ ส.ว. ก็ต่อคิวด้วยการซักฟอกของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถือเป็นไฟท์บังคับต้องจัดหนักจัดเต็มใส่รัฐบาลแบบไม่ยั้งมือ เพราะการเมืองหลังศึกซักฟอกเดิมพันสูง

หากไม่ระคายผิวรัฐบาล นายกฯยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ได้ผุดได้เกิดทางการเมืองไปอีกนาน

ดูแนวโน้มว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อย เพราะถึงยังไงการเมืองในสภาก็โค่นล้มรัฐบาลไม่ได้ ต้องอาศัยการเมืองนอกสภา และอาศัยมือขององค์กรอิสระ

การเมืองนอกสภาแม้จะสร้างความหวาดหวั่นให้รัฐบาลได้ แต่หากไม่มีลูกบ้าเหมือนครั้งปิดล้อมรัฐสภา ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน หรือยึดอำนาจ โอกาสโค่นล้มเครือข่ายทักษิณแทบเป็นไปไม่ได้เลย

เลวร้ายที่สุดแม้นายกฯยิ่งลักษณ์ต้องลาออกเพราะถูกองค์กรอิสระที่ไหนสักองค์กรชี้มูลความผิด แต่การเลือกนายกฯคนใหม่ในสภาก็จะได้คนของพรรคเพื่อไทยอยู่ดี เพราะมี ส.ส. พรรคเดียวเกินครึ่ง

หากคิดจะใช้วิธีเก่าเรียกแกนนำกลุ่มต่างๆไปข่มขู่ให้ย้ายข้างมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เหมือนคราวที่แล้วก็เป็นไปได้ยาก เพราะคนที่อยู่กับพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้จัดเป็นพวกเลือดแท้ ไม่ทิ้งพรรค

ภารกิจทลายห้างโค่นล้มเครือข่ายทักษิณเที่ยวนี้เดิมพันจึงสูงปรี๊ด หากไม่บรรลุผลตามเป้า โอกาสแช่แข็งประเทศร่างกติกาตามที่ต้องการแทบปิดประตูล็อกตาย

เมื่อเดิมพันสูง และเป็นสงครามครั้งสุดท้าย โอกาสที่จะเล่นแรงๆก็เป็นไปได้สูงอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่จะแรงในระดับไหน อย่างไร ยังยากที่จะประเมิน

ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น