ศาล รธน.ไม่ปิดทางเร่งไต่สวนคุณสมบัติ"อภิสิทธิ์"เผยหากจำเป็นอาจลัดคิวคดีอื่น ถ้าคำร้องอ้างเหตุผล ความสำคัญเพียงพอ
รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่าจากกรณีที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทยจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมูญเพื่อให้พิจารณาว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎ สมาชิกภาพความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงหรือไม่จากการที่กระทรวงกลาโหม มีคำสั่งถอดยศและปลดออกจากราชการ นั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับพิจารณาได้หรือไม่ต้องดูว่ายื่นมาในช่องทางใด ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะยื่นมาตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ที่ระบุให้ ส.ส. เข้าชื่อ 1 ใน 10 เพื่อขอให้วินิจฉัย หรืออาจจะยื่นผ่านช่องทางอื่นเช่น กกต. แต่อาจจะทำให้เรื่องขึ้นสู่ศาลล่าช้ากว่าที่ต้องการ
สำหรับกรณีที่นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าจะให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนฉุกเฉินนั้น ตามระเบียบวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีการไต่สวนฉุกเฉินในลักษณะเดียวกับศาลปกครอง แต่การพิจารณาจะทันก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นกับศาลว่าจะพิจารณาอย่างไรจะเร่งให้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าคำร้องที่ยื่นมานั้นมีน้ำหนักพอที่จะให้เร่งพิจารณาหรือไม่ โดยต้องดูจากเหตุผลและความสำคัญ ซึ่งทั้งหมดต้องขึ้นกับดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญไม่มีธรรมเนียมปฎิบัติในการไต่สวนฉุกเฉิน เพราะศาลรัฐธรรมนูญจะไม่นำวิธีการไต่สวนแบบคดีแพ่งมาใช้ ที่ไม่ให้อีกฝ่ายได้ชี้แจง และตัดสินคดีภายในวันเดียว เราไม่มีวิธีนั้น แต่ถ้าจะทำจริงๆกฎหมายก็เปิดช่องไว้ ทั้งนี้เบื้องต้นหากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ก็ต้องผ่านขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ในชั้นของสำนักงานก่อนที่จะส่งเรื่องมายังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งหลังจากนั้นตุลาการก็จะมาพิจารณาตามคำร้องและสถานการณ์ว่าจำเป็นหรือไม่ หากเห็นว่าจำเป็นก็อาจจะลัดคิวคดีอื่น เพื่อเร่งรัดในการพิจารณาให้ทันเวลาได้
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
******************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น