แตกไลน์ออกมาเป็นกุศโลบายหาเสียงของพรรค “SME” ที่ไม่ต่างจากพรรคระดับตัวแปรใน การจัดตั้งรัฐบาล ที่ “โต๊ะข่าวการเมือง” ชี้เป้าไปที่ 3 พรรคไซส์กลางไปถึงเล็กอย่าง ชาติไทยพัฒนา เพื่อแผ่นดิน (3 พี+ก๊วน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ) และมาตุภูมิ ชาติไทยพัฒนา
ปักหมุดดอกแรกไปที่พรรคชาติไทยพัฒนา ภายใต้การบัญชาการของ “บรรหาร ศิลปอาชา” ผ่านม็อตโต้ “ชาติไทยพัฒนา เพื่อพัฒนาชาติไทย การเมืองไม่ขัดแย้ง สร้างแรง กระตุ้นเศรษฐกิจ มีคุณภาพชีวิตที่ดี”
ที่ขออนุญาตคัดแบบเนื้อๆ เน้นๆ ในนโยบายด้านท่องเที่ยวอันเป็นหัวใจหลักในการ บริหารประเทศของพรรคชาติไทยพัฒนาที่สรุปความว่า
พรรคชาติไทยพัฒนาจะส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ของประเทศ เพื่อการสร้างงาน สร้างรายได้และความอยู่ดี กินดีของประชาชน โดยจะสนับสนุนให้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ควบคู่ไปกับการรักษาแหล่งท่องเที่ยวเดิม โดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งนี้ จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของชุมชน และให้มีความตระหนักรู้ถึง คุณค่า และหวงแหนในทรัพยากรทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของชุมชน
นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีการลงทุนด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่จังหวัดกลุ่มอารยธรรมภาคเหนือ พื้นที่จังหวัด เชื่อมโยงทางภาคใต้ตอนบน กลุ่มจังหวัดลุ่มแม่น้ำภาคกลาง กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก และภาคอีสาน ตลอดจนเร่งรัดให้มีการพัฒนา มาตรฐานการบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กับต่างประเทศ โดยจะสนับสนุนให้หน่วยงาน ของรัฐและเอกชน ร่วมมือกันในการขับเคลื่อน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และจะสนับสนุนและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในด้านกฎระเบียบเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่นักลงทุน จากทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเร่งพัฒนา ศักยภาพบุคลากรด้านการ ท่องเที่ยวของไทย เพื่อรองรับระบบเศรษฐกิจการค้าเสรีในภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน
ชูจุดขายเที่ยวละไมไปกับทีมงานปลาไหล นโยบายหาเสียงดังกล่าวจึงถือว่าไม่ธรรมดาเพื่อแผ่นดิน+สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ตัดสลับมาที่พรรคเพื่อแผ่นดินภายใต้การคอนโทรลของทีมงาน 3 พี ที่ไปแต่มือกับ ก๊วนโคราชของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ที่ปูพรม นโยบายหาเสียงผ่านสโลแกน “รัฐสวัสดิการ เพื่อแผ่นดิน 9 ความสุข นำรอยยิ้มสู่สังคมไทย” ออกมาได้น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมีสาระ สำคัญประกอบไปด้วยการสร้างความสุขให้กับ คนไทย
โดยในเบื้องต้น จะมีการจัดเบี้ยสวัสดิการ ให้กลุ่มคนทำงานอาสา เช่น อสม., อป.พร. ตำรวจบ้าน รวมถึงคนไม่มีรายได้ คนตกงานรายละ 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน เพิ่มเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ จาก 500 บาทเป็น 1,000 บาทต่อเดือน จัดสรรเงินบำรุงศาสนสถาน ตำรวจ โรงเรียน แห่งละ 1 แสนบาทต่อปี ล้าง หนี้ให้กับประชาชนที่มียอดหนี้ไม่เกิน 2 แสนบาททุกคน ตั้งธนาคารต้นไม้ ธนาคารชุมชน
ก๊วนการเมืองใหม่ที่ยังไม่ลงเอยในเรื่อง ชื่อพรรค ยังคงหาเสียงเกาะกระแสประชานิยมไว้ได้อย่างน่าสนใจเช่นกัน
มาตุภูมิข้ามช็อตไปที่พรรคใหม่อย่าง “มาตุภูมิ” ภายใต้การกุมบังเหียนของ “บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” ที่ชูนโยบายหาเสียงผ่านม็อตโต้ “กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง เพื่อความ อยู่ดีมีสุขของคนไทยทั้งประเทศ ประสานทุกปัญหา พัฒนาเท่าเทียม ดำรงเกียรติชาติไทย เลือกพรรคมาตุภูมิ”
ในฐานะที่หัวหน้าพรรคเติบโตมาจากฝ่ายความมั่นคง จึงขอเจาะเฉพาะนโยบายใน ด้านนี้ให้สาธารณชนได้รับทราบ อันมีรายละเอียดดังนี้
1.ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนา ระบบการป้องกันประเทศให้มีขีดความสามารถ ในการป้องกันตนเองและรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือจากประชาชนเพื่อร่วมพัฒนาระบบการป้องกันประเทศ
2.สนับสนุนการพัฒนาความพร้อมของ กองทัพ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในการรักษาไว้ซึ่งอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และผลประโยชน์ของชาติ ควบคู่ไปกับการ ส่งเสริมการพัฒนาประเทศและการป้องกันบรรเทาภัยสาธารณะ
3.ยึดมั่นในแนวทาง เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบภายในประเทศ
4.ผลักดันให้เกิดความสมัครสมาน สามัคคีของคนในชาติ และส่งเสริมให้เกิดกลไก ระงับความขัดแย้งกันทางอุดมการณ์ทางการ เมืองภายใต้หลักประชาธิปไตยและสันติวิธี
5.ปรับปรุงและสนับสนุนด้านสวัสดิการ ทหาร องค์การทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารให้ดีขึ้นเพื่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ
6.ส่งเสริมการจัดระบบคนต่างด้าวเข้า เมืองผิดกฎหมายทุกประเภท เพื่อจำกัด ควบคุมและลดปริมาณและผลกระทบของปัญหาต่อความมั่นคงในระยะยาว ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการสถานะและสิทธิของคน ต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศและความมั่นคง ของชาติ
ยกนโยบายมาชี้จุดดีจุดด้อยทั้งกระบิ คงไม่ไหว แต่ที่ได้เรียบเรียงมาล้วนเป็น จุดเด่นจุดขายของพรรค “SME” ที่กำลังรอ ลุ้นผลการเลือกตั้งในวันข้างหน้าว่ากุศโลบาย ขายฝันเหล่านี้จะตีแตกถึงใจประชาชน หรือไม่???
ที่มา.สยามธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น