บาห์เรนเดือดรอบใหม่ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงปะทะผู้ชุมนุม เสียชีวิตแล้ว 5 ราย บาดเจ็บหลายร้อย "กษัตริย์ฮามาด" ประกาศภาวะฉุกเฉิน น้ำมันเบรนด์พุ่งกว่า 1 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ในบาห์เรน เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากมุสลิม และนานาชาติ พร้อมเตือนว่า ผู้ชุมนุมประท้วงกำลังตกเป็นเป้า ของการสังหารหมู่ ส่วนอิหร่าน ซึ่งเป็นดินแดนมุสลิมชีอะห์และเป็นเพื่อนบ้านของบาห์เรนในอ่าวอาหรับ ออกแถลงการณ์ประณามการแทรกแซงทางทหารว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้
นายอาลี อักบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เรียกร้องให้นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาตอบโต้เรื่องการสลายการชุมนุมและการส่งทหารต่างชาติเข้าไปในบาห์เรน
“ชาวบาห์เรนกำลังเรียกร้องตามสิทธิที่มี และกระทำโดยสันติ ซึ่งการใช้กำลังปราบปรามเสียงเรียกร้องอันชอบธรรมเหล่านี้ ควรถูกยับยั้ง” นายรามิน เมห์มันปาราส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าว
ด้านนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้ชาวบาห์เรนใช้การเมืองแก้วิกฤตความขัดแย้ง
ขณะที่ นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวระหว่างเยือนบาห์เรนสัปดาห์ที่แล้วว่า หากบาห์เรนไม่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ อิหร่านอาจฉวยโอกาสเข้าแทรกแซงสถานการณ์ได้
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ได้พากันเดินขบวนไปยังสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงมานามา วานนี้ (16มี.ค.)พร้อมกับร้องตะโกนขับไล่กษัตริย์ฮามาด และสัญญาว่าจะปกป้องประเทศจากทหารผู้รุกราน ทั้งยังขอให้ชาวมุสลิมสุหนี่และชีอะห์รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ส่วนถานีโทรทัศน์แห่งชาติบาห์เรนตัดสัญญาณรายการปกติ เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือน
เหตุรุนแรงทางการเมืองในบาห์เรน ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ กรุงลอนดอน พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ เหนือระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงบ่ายวานนี้ หลังจากกองกำลังรักษาความมั่นคงของบาห์เรน ใช้กำลังสลายการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โดยราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ใกล้ระดับ 107 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ทำไว้ในช่วงเช้า จากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์ของบาห์เรนได้บินอยู่เหนือท้องฟ้า และตำรวจบาห์เรนยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ส่งผลให้พวกเขาสลายการชุมนุมจากจัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการลุกฮือประท้วงของชาวบาห์เรน
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น