--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

มาตรการโดดเดี่ยวกัดดาฟี: อายัดทรัพย์กว่าหมื่นล้านทั่วโลก

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาสั่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อายัดทรัพย์สินผู้นำลิเบีย 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (1.84 หมื่นล้านปอนด์) ของผู้นำลิเบีย ผู้นำทั่วโลกกำลังโดดเดี่ยวระบอบลิเบียภายหลังการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง

การอายัดทรัพย์เริ่มขึ้นมากว่าสัปดาห์แล้ว และครั้งใหญ่สุดทำโดยสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลลิเบียและกลุ่มผู้นำน่าจะซุกซ่อนเงินอีกกว่าหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในบัญชีธนาคารต่างประเทศ ก้อนเงินดังกล่าวน่าจะมาจากการค้าน้ำมัน

รัฐบาลลิเบียถูกอายัดทรัพย์สินราว 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายใต้เขตอำนาจศาลของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯ กำลังพิจารณาสั่งอายัดทรัพย์สินเป็นรายบุคคลเพิ่ม ทั้งนี้ในปี 2010 วิกิลีกส์เปิดเผยข้อมูลว่า กัดดาฟี ให้ LIA หรือ Libyan Investment Authority ถือครองเงินสดราว 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และธนาคารอื่นๆ ในสหรัฐอีกราว 300-500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ



มีการคาดการณ์ว่า LIA อาจครอบครองอีกราว 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งการลงทุนในธนาคารยุโรป เช่น ธนาคารอิตาลี ฯลฯ

ในปลายปี 2010 ลิเบียถูกประเมินว่าถือสินทรัพย์ทั่วโลกราว 1.52 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในขั้นต้น กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เตือนธนาคารต่างๆ ให้เฝ้าระวังการถ่ายโอนเงินตราที่จะเชื่อมโยงไปยังผู้นำลิเบีย ทั้งนี้ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผู้มีอำนาจในลิเบียได้ถอดถอนเงินออกไป ขณะที่สหรัฐฯ กำลังดำเนินมาตรการคว่ำบาตร

อย่างไรก็ตาม อังกฤษ สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ ได้ยึดทรัพย์สินกัดดาฟีและกลุ่มผู้นำลิเบีย ถือเป็นมาตรการเพิ่มแรงกดดันของประชาคมโลกต่อระบอบลิเบียที่ทวีความเข้มข้นมากขึ้น
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อังกฤษได้อายัดทรัพย์สินของกัดดาฟี ลูกสาวและลูกชายทั้งสี่ของเขา รวมทั้งยึดบ้านที่ Hamstead ที่มีมูลค่าราว 10 ล้านปอนด์ ของ Saif al-Islam Gaddafi ลูกชายคนที่สองของกัดดาฟี
สัปดาห์ที่ผ่านมา อังกฤษพยายายามถอนเงินทุนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของอังกฤษออกจากลิเบีย ก่อนจะทำการคว่ำบาตร
นอกจากนี้สถาบันทางการเงินในยุโรปได้พยายามทำทุกวิถีทางผ่านความร่วมมือกับสหรัฐฯ องค์การสหประชาชาติ และอังกฤษ ในการบล็อกทรัพย์สินของรัฐบาลลิเบีย รวมทั้งธนาคารกลางของลิเบีย และ LIA
Guardian

ที่มา.Siam Intelligence Unit
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น