ในยุคนี้ องค์กรรัฐที่ใหญ่โตมหึมานั้นเป็นสิ่งล้าหลัง ไม่สอดคล้องกับยุคสมัยแล้ว
องค์กรรัฐที่รวมศูนย์ก่อตัวขึ้นมาตามขั้นตอนพัฒนาการทางสังคม มันเป็นสิ่งที่จำเป็นในช่วงการก่อตัวเป็นรัฐชาติ (nation state) แต่ในยุคนี้ รัฐควรกระจายงานออกไป ลดขนาดองค์กรรัฐ เพื่อให้คล่องตัว ทำงานได้รวดเร็ว และบริการรับใช้พลเมืองในท้องถิ่นได้ตรงกับภาวะรูปธรรมของแต่ละท้องถิ่นมากขึ้น
สังคมไทยเราก็เริ่มเกินหน้าเรื่องนี้มานานแล้ว จนผู้คนคุ้นเคยกับคำว่า "กระจายอำนาจ"
แต่ในทางเป็นจริง การกระจายอำนาจยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่เป็นไปตามอุดมคติ
งานหลายอย่างที่ควรจะโอนให้ อปท.ไป ก็ยังทำไม่ได้
อปท.บางแห่งก็มีการโกงกินกันอย่างหน้าด้าน ฯลฯ
ปัญหาการเรียกร้องส่วนแบ่งของเงินงบประมาณของ อปท. ขณะนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาทั้งหมด
เงินงบประมาณจำนวน 30% จะต้องจัดสรรให้แก่ อปท. เป็นข้อกำหนดที่ชัดเจนมานานแล้ว แต่ทุกรัฐบาลดึงเรื่องเอาไว้ โดยอ้างว่า ไม่มีเงินงบระมาณพอ
มันไม่ใช่เรื่อง มีเงินหรือไม่มีเงิน
เงินงบประมาณมีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น โดยรัฐบาลกลางมีสิทธิ์ใช้ 70% ส่วนอีก 30% แบ่งให้ อปท.ใช้
รัฐบาลก็ต้องทำงานตามงบประมาณที่มีเท่านั้น ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ถ้า อปท.ได้งบประมาณไปตามข้อกำหนดคือ 30% แล้ว ทำงานพัฒนาท้องถิ่นไม่ได้ ผู้บริหาร อปท.แห่งนั้นก็ต้องรับผิดชอบ
ถามว่าชาวบ้านเขากลัวไหม เขาไม่กลัวหรอก เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบ อปท.ทำได้ง่ายกว่าตรวจสอบรัฐบาล กระทั่งจะขับไล่ ผู้บริหารระดับ อปท. ก็ทำได้ง่ายกว่าขับไล่รัฐบาลเยอะ
เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมาย รัฐบาลก็ควรให้สำนักงบประมาณเขาตัดเงินไปเลย 30% แล้วรัฐบาลก็ทำงานตามที่มีเงินงบประมาณ งานหลาย ๆ อย่างต้องโอนให้ อปท.ไป
อย่าหวงเอาไว้เลย ปล่อยไปเถิด แล้วรัฐบาลจะสบายตัวขึ้นเยอะ
การเปลี่ยนแปลงงบประมาณในปี 2557 คงทำไม่ทัน ก็ไม่เป็นไร ทาง อปท.เขาก็คงมีเหตุมีผล ยอมรับไปก่อนได้ ถ้ารัฐบาลให้คำมั่นสัญญาแน่นอนว่า จะเริ่มจัดสรรงบประมาณให้ครบแน่เริ่มตั้งแต่ ปี 2557 เป็นต้นไป
ซึ่งต่อจากนั้น อปท.ก็จะต้องรับผิดรับชอบกันเอาเองแล้ว
ถ้าทำตัวไม่ดี ก็ให้คนท้องถิ่นจัดการเสียให้เข็ด !!
ที่มา.สยามรัฐ
//////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น