เป็นเรื่องถกเถียงกันมานานแล้วว่า...สมควรจะมีกาสิโนในประเทศไทยหรือไม่?
การถกเถียงยังลามไปถึงประเด็นปัญหาที่ว่า..การนำหวยใต้ดินขึ้นมาเล่นบนดิน ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่
เรื่องหวยบนดินเคยมีการทำมาแล้ว แต่ถูกยกเลิกไปภายหลังการรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๔๙
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น รายได้จากหวยบนดินได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่วงการศึกษามิใช่น้อย
โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่เป็นเสมือน “ช้างเผือก” ในต่างจังหวัด ต่างได้รับทุนไปร่ำเรียนที่ต่างประเทศจำนวนหลายร้อยคน
สถานกาสิโนและหวยบนดินเกิดขึ้นไม่ได้ในประเทศไทย เพราะมีการคัดค้านอย่างหัวชนกำแพงว่า...มันเป็นการส่งเสริมให้คนทำบาป ทำให้ศีลธรรมเสื่อมทรุด
และประดาคนที่คัดค้าน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีเสียงดัง พูดอะไรออกมา ไม่มีใครกล้าค้านกล้าเถียง
แต่ก็น่าประหลาดสิ้นดี ตอนเกิดการเข่นฆ่าประชาชน ไม่ว่าสมัยปี ๒๕๑๙ ปี ๒๕๓๕ รวมทั้งสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี ๒๕๕๓ ที่มีการล้อมปราบฆ่าคนกลางเมืองหลวงตายไปเป็นร้อยคน แต่คนคนพวกนี้กลับปิดปากเสียสนิท
พิสูจน์ให้เห็นว่า..ในทัศนะของเขานั้น การเปิดบ่อนกาสิโน หรือมีหวยบนดินเป็นการทำบาป
แต่การฆ่าคนไม่บาปเลย
ใครเรียกร้องให้มีกาสิโนหรือหวยบนดินจะถูกประณามอย่างสาดเสียเทเสีย
มาบัดนี้มีคนกล้าลุกขึ้นมาเรียกร้องเรื่องนี้ชื่อ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองไทย
โดย คุณธนินท์ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งเสริมธุจกิจท่องเที่ยว และเปิดบ่อนกาสิโนในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างพัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้เงิน
“ถ้าผมมีอำนาจ ผมจะเปิดกาสิโนเหมือนลาสเวกัส อย่ามองการพนันไม่ดี เมืองไทยการพนันใต้ดินเต็มบ้านเต็มเมือง เราต้องยอมรับ
การมีบ่อนกาสิโน ถ้าคนไม่ชอบเล่นการพนันก็ไม่เล่น และถ้าเมืองไทยไม่มีกาสิโน นักท่องเที่ยวต่างชาติก็หนีไปเล่นที่ลาสเวกัส หรือหมาเก๊า
ปัจจุบันหมาเก๊าซึ่งเป็นเพียงเกาะเล็กๆ มีรายได้จากกาสิโนถึง ๘๗๙,๗๗๙ ล้านบาทต่อปี ขณะที่ลาสเวกัสมีรายได้ ๓๑๙,๓๐๐ ล้านบาท
แต่การเปิดกาสิโนไม่ใช่จะมีรายได้จากบ่อนอย่างเดียว แต่จะมีรายได้จากโรงแรมอีกด้วย อย่างสิงคโปร์ที่เพิ่งจะเปิดกาสิโน ขณะนี้มีรายได้เป็นอันดับสามประมาณ ๑๖๙,๘๔๙ ล้านบาทต่อปี”
คุณธนินท์สรุปว่า...ถ้าไทยเปิดกาสิโนจะมีรายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อมีคนจะเอาเงินมาให้แล้วทำไมเราจึงไม่เอา นั่นนะสิ
โดย.ศรี อินทปันตี,บางกอกทูเดย์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น