--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ศปช.เปิดข้อมูลสลาย นปช.ใช้อาวุธรุนแรง-ค้านเหวี่ยงแห นิรโทษฯ !!?

ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายการชุมนุม เม.ย.-พ.ค. 2553 รายงานความจริงเพื่อความยุติธรรม เรียกร้องผู้นำกองทัพยอมรับความเป็นจริงเรื่องอาวุธและความรุนแรงที่กระทำต่อผู้ชุมนุม เพราะมีการใช้อาวุธสะเปะสะปะยิงคนตายและบาดเจ็บโดยไม่มีเหตุผล ชี้สังคมจะเดินต่อไปได้ต้องสร้างความจริงให้ปรากฏ นำคนผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างบรรทัดฐานว่าการกระทำของรัฐนั้นหากมีผู้เสียชีวิตต้องมีคนรับความผิด ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมแบบเหวี่ยงแห

+++++++++++++++++

นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน แถลงการณ์ตอบโต้กองทัพบกที่ส่งนายทหารพระธรรมนูญไปแจ้งความหมิ่นประมาทกรณีกล่าวปราศรัยว่ากองทัพปราบปรามการชุมนุมอย่างทารุณ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชน 98 ราย โดยระบุว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กองทัพไทยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาข่มขู่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการทำคดีนี้

“เป็นความรู้สึกที่เริ่มจนตรอกมากขึ้น จึงมีความพยายามปกป้องตนเอง ผมยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อนำตัวผู้นำระดับสูงที่ฆ่าพลเรือนเพื่อปกป้องอำนาจมาลงโทษในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติให้ได้”

ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ อาคารอเนกประสงค์ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายการชุมนุม เม.ย.-พ.ค. 2553 (ศปช.) เปิดแถลงรายงานเรื่อง “ความจริงเพื่อความยุติธรรม : เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา-พฤษภา 2553 โดยมีการนำหลักฐานเอกสารพร้อมภาพถ่ายต่างๆที่รวบรวมตลอดระยะเวลา 2 ปีมายืนยัน พร้อมระบุว่าทหารใช้กำลังอาวุธสลายการชุมนุม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวในการสลายการชุมนุมครั้งนี้คือมีคนส่วนหนึ่งในสังคมเห็นชอบ ทั้งยังเรียกร้องให้มีการจัดการผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด จากรายงานการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม บางรายไม่สมควรถูกยิง เช่น ญาติของนักร้องชื่อดังที่ถูกยิงบนอาคารสูง ทำให้มองว่าเป็นการปฏิบัติการทางทหารที่สะเปะสะปะ ยิงคนตายและบาดเจ็บโดยไม่มีเหตุผล

“การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาปฏิเสธและไม่พอใจที่มีการพูดว่าทหารใช้อาวุธสลายการชุมนุมนั้น เป็นการปฏิเสธที่ตลกแบบขำไม่ออก และไม่น่าเชื่อว่าคนเป็น ผบ.ทบ. จะพูดว่าปืนยิงนก ไม่ใช่สไนเปอร์ อยากให้ควบคุมอารมณ์มากขึ้นจะได้เห็นความจริง”

น.ส.ขวัญระวี วังอุดม อาจารย์สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากการวิเคราะห์เหตุการณ์จากหลักฐานเอกสารประกอบการชันสูตรพลิกศพ พบว่ามีการใช้กระสุนจริงยิงผู้ชุมนุมมือเปล่าจนเสียชีวิตจำนวนมาก โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ไม่ได้ควบคุมการใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมให้เป็นไปตามหลักสากล ทั้งไม่เคยมีหลักฐานยืนยันว่ามีชายชุดดำจริง

“การโยนความผิดทุกอย่างให้ชายชุดดำถือเป็นเรื่องไร้ความรับผิดชอบ การอ้างว่ามีชายชุดดำและกองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ทำให้สังคมเชื่อและต้องการขจัดให้หมดไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากสังคมจะเดินต่อไปได้ต้องสร้างความจริงให้ปรากฏ นำคนผิดมาลงโทษ สร้างบรรทัดฐานให้สังคมว่าการกระทำของรัฐนั้นหากมีผู้เสียชีวิตจะต้องมีคนรับความผิด”

น.ส.ขวัญระวีกล่าวว่า การกระทำของทหารในครั้งนี้เป็นรูปแบบเดียวกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ทำเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม เรื่องนี้ไม่ควรมีการนิรโทษกรรมแบบเหวี่ยงแห เพราะเหตุการณ์นี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ อย่าทำให้เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516, 6 ตุลา 2519 และพฤษภาทมิฬ ซึ่งสังคมไทยไม่ได้ประโยชน์และไม่เกิดการเรียนรู้

ดร.บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ผังล้มเจ้าทำให้คนในสังคมเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมมีวัตถุประสงค์ที่จะล้มล้างสถาบัน สังคมจึงเกิดความเพิกเฉยต่อการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง สิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ เม.ย.-พ.ค. 2553 จึงไม่ได้แค่เป็นการกระชับวงล้อม แต่เป็นการปฏิบัติการทางทหารต่อประชาชนระดับยุทธการรบ

ส่วนกรณีการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง เพราะหลังจากนั้นการดำเนินการของผู้ชุมนุมเป็นไปเพื่อการป้องกันพลซุ่มยิง จากข่าวที่ผ่านมาที่กองทัพออกมาบอกว่าไม่มีสไนเปอร์ เรื่องนี้ควรยอมรับความจริง เพราะภาพและเอกสารต่างๆที่ออกมามีความชัดเจน

ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คตั้งคำถามถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ว่ากองกำลังชุดดำเป็นของใคร ใครเป็นคนฝึกกองกำลังชุดดำมาเพื่อสิ่งใด คนฝึกกองกำลังชุดดำมีเพียง เสธ.แดงรายเดียวจริงหรือไม่ รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ตอบได้หรือไม่ รู้จักคนเหล่านั้นหรือไม่ มีพยานหลักฐานเป็นประจักษ์ว่ากองกำลังชุดดำกับขบวนการเสื้อแดงและพวกมีการเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปี 2551 ใช่หรือไม่

ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น