เมื่อ ๓๐ ปีก่อน คนไทยหลงดีใจกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า...เราได้มาถึงยุค “โชติช่วงชัชวาล” กันแล้ว เพราะมีการพบและขุดก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยขึ้นมาใช้ได้
แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า...เบื้องหลังวลีดังกล่าว มันคือการที่เราต้องให้สัมปทานการขุดก๊าซในอ่าวไทยแก่ บริษัท เชฟร่อน ของอเมริกา โดยอ้างว่าแบ่งผลประโยชน์กันคนละครึ่งโดยเราต้องซื้อในราคาตลาดโลก
ถึงวันนี้ก็อยากจะรู้ว่าเงินก้อนมหาศาลจำนวนดังกล่าวมันไปอยู่ที่ตรงไหน?
และเมื่อถึงวันนี้ก็มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า ปริมาณก๊าซสำรองในอ่าวไทยยังมีเหลือพอใช้อีกแค่ ๑๓ ปี จากปริมาณการผลิตสูงสุดวันละ ๓,๕๐๐ ล้านลูกบาศก์ฟุต โดยจากนี้ไปปริมาณการผลิตจะลดลงไปเรื่อยๆ
เราใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง โดยอาศัยก๊าซธรรมชาติของพม่าจำนวนหนึ่ง หากก๊าซของเราเองหมดและมีปัญหากับพม่า ก็ลองตรองดูก็แล้วกันว่า ปัญหามันจะมากมายสักขนาดไหน
แต่ท่ามกลางข่าวไม่ดีดังว่านี้ ก็มีข่าวดีแทรกเข้ามา โดยนิตยสารฟอร์จูน ได้จัดอันดับบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกประจำปี ๒๕๕๕ ปรากฎว่า...
บริษัท ปตท.สผ. ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและเจาะหาน้ำมันขนาดยักษ์ของไทยเรา ได้ขึ้นทำเนียบใหญ่เป็นอันดับที่ ๙๕ ของโลก
โดยมีรายได้ ๗๙,๖๙๐ ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ ๒.๕๕ ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิ ๓,๔๕๖ ล้านดอลล่าร์ หรือราว ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
ขณะเดียวกันก็มีข่าวดีอีกชิ้นหนึ่งบอกว่า ปตท.สผ. ได้ชนะการประมูลซื้อ บริษัทโคฟ เอนเนอยี ของอังกฤษ
การประมูลครั้งนี้ ปตท.สผ. ต้องสู้กับยักษ์ใหญ่ คือ รอยัล ดัทช์ เชล สัญชาติอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก
ทั้งนี้ ปตท.สผ. ต้องสู้กับเชลล์มานานค่อนปี โดย ปตท.สผ. เสนอราคาซื้อหุ้นละ ๒๔๐ เพนซ์ ขณะที่เชลล์เสนอ ๒๒๐ เพนซ์
แต่จู่ๆ เชลล์ก็ถอนตัวในนาทีสุดท้าย ท่ามกลางความงุนงงของตลาดโลก
ในการนี้ ปตท.สผ.ต้องจ่ายเงินค่าหุ้นทั้งสิ้น ๑,๙๐๐ ล้านดอลลาร์ หรือ ๖๐,๘๐๐ ล้านบาท และต้องใช้เงินอีก ๒๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ หรือ ๖๔๐,๐๐๐ ล้านบาทเพื่อพัฒนาการผลิตก๊าซต่อไปอีก ๔ ปีข้างหน้า
โคฟ เอนเนอยี ลงทุนขุดเจาะก๊าซและน้ำมันในแอฟริกา แถวประเทศโมซัมบิก แทนซาเนียและเคนยา ถือหุ้นร้อยละ ๘.๕ ใน บริษัทโมซัมบิก โรวูมา มีพื้นที่หนึ่งได้ขุดพบแหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลกว่า ๖๐ ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มากกว่าปริมาณก๊าซสำรองของอังกฤษถึง ๖ เท่า
นี่ขนาดเมืองไทยเรา มีแต่เรื่องตีกัน ฆ่ากันและพยายามโค่นอำนาจกันอยู่แบบไม่ว่างเว้น เรายังทำได้ดีขนาดนี้ ถ้าไม่มีเรื่องบ้าๆ บอๆ แบบที่กล่าว เราจะก้าวไปไกลสักแค่ไหน?
โดย: ศรี อินทปันตี,บางกอกทูเดย์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น